ลด ‘อุบัติเหตุ’ ช่วงเทศกาล สิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ
ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2554 รัฐบาลกำหนดให้เป็นช่วงเวลา 7 วันอันตรายในเทศกาลปีใหม่ 2554 เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านและไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก
ปีนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย มีเป้าหมายดำเนินการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ระหว่างช่วง 7 วันดังกล่าว ให้ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ 2553
โดยเป้าหมายการลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บบนท้องถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2554 ตั้งเป้าไว้ 3,357 ครั้ง จากสถิติปี 2553 จำนวน 3,534 ครั้ง หรือลดลง 177 ครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตปี 2554 ตั้งเป้าไว้ 330 คน จากสถิติปี 2553 จำนวน 347 คน หรือลดลง 17 คน และจำนวนผู้บาดเจ็บปี 2554 ตั้งเป้าไว้ 3,636 คน จากสถิติปี 2553 จำนวน 3,827 คน หรือลดลง 191 คน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมมาตรการ 3 ม. คือ เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย 2 ข. คือ ใบขับขี่ รัดเข็มขัดนิรภัย และ 1 ร. คือ ขับรถเร็วไม่เกินที่กฎหมายกำหนด กระทรวงมหาดไทยก็มีการสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง การตั้งจุดตรวจร่วมตามถนนสายหลักและสายรอง รวมทั้งให้ทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งจุดสกัดประจำหมู่บ้าน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์ไว้เช่นเดียวกัน
แม้ในภาพรวมจะถือว่ามีการเตรียมความพร้อมที่ดีและมีมาตรการต่างๆ ที่น่าจะช่วยลดอุบัติเหตุได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ก็ยังมีจุดสำคัญในแผนการรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ของรัฐบาลที่ยังด้อยอยู่ นั่นคือ ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นสปอตโฆษณาทางทีวี หรือการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการเดินทางแต่อย่างใด
การตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุ ลดผู้เสียชีวิต หรือลดผู้บาดเจ็บ รวมทั้งการวางมาตรการป้องกันต่างๆ ไม่ใช่แก่นเนื้อแท้ของการทำให้อุบัติเหตุการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บลดลง หากแต่สิ่งที่จะทำให้แผนการณรงค์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ คือเจ้าหน้าที่จะต้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ภาครัฐต้องเร่งเสริมสร้างสำนึกให้ประชาชนคำนึงถึงการระวังป้องกันอุบัติเหตุบนถนน โดยไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ต้องดำเนินการทั้งสองส่วนอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดทั้งปี
เฉกเช่นเดียวกับการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการรณรงค์มอบของขวัญในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่ทาง สสส. ใช้แคมเปญ “ให้เหล้า = แช่ง” ส่งผลให้ธรรมเนียมการมอบกระ เช้าเป็นของขวัญ หรือการมอบของขวัญเป็นของที่ระลึกในปัจจุบันที่มีเหล้าเป็นส่วนประกอบหลัก ลดน้อยจนแทบจะไม่มี เพราะผู้ที่จะให้เกิดความละอายใจ และเกรงผู้รับจะรู้สึกเหมือนกับแช่งอย่างสโลแกนของ สสส.
ดังนั้น รัฐบาลน่าจะใช้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2554 เป็นจุดเริ่มต้นในการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการระมัดระวังอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากนี้อีกเพียง 4 เดือน ก็จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ซึ่งเราไม่อยากเห็นอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมายยิ่งกว่าอยู่ในภาวะสงครามเสียอีก
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update : 29-12-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน