ระวังน้ำส้มสายชูในถ้วยพลาสติก
ชี้ทำให้เกิดสารละลายของปรอทหรือสารหนู
น้ำส้มสายชู ควรเก็บไว้ในภาชนะแก้ว และให้สังเกตผักหรือพริกที่แช่อยู่ในน้ำต้องสดเสมออย.เตือนผู้บริโภคและร้านอาหาร ไม่ควรใส่หรือตักน้ำส้มสายชูด้วยภาชนะพลาสติก เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดอาจก่อให้เกิดสารละลายของปรอท หรือสารหนู เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ รวมทั้งอย่านำหัวน้ำส้มที่ใช้ในทางอุตสาหกรรมผสมน้ำใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร
ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงโดยไม่แบ่งบรรจุน้ำส้มสายชูด้วยภาชนะพลาสติก ควรใส่ในแก้วหรือขวดโหล จะเป็นการปลอดภัยกว่า
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า น้ำส้มสายชูจัดเป็นอาหารที่กำหนดคุณภาพมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ น้ำส้มสายชูหมัก น้ำส้มสายชูกลั่น และน้ำส้มสายชูเทียม แต่ที่ผ่านมาเคยพบว่ามีผู้ประกอบการบางรายนำหัวน้ำส้ม เกลเชียล อะชิติค แอซิด ชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ มาเจือจางด้วยน้ำแล้วใช้เป็นเครื่องปรุงสำหรับก๋วยเตี๋ยว ซึ่งกรดดังกล่าวมีอันตรายมาก ไม่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ จะทำให้เกิดอันตรายต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ เนื่องจากมีปริมาณกรดที่สูงเกินไป รวมทั้งยังอาจได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อนต่าง ๆ ด้วย และถึงแม้ว่า เกลเชียล อะชิติค แอซิด บางประเภทจะใช้เป็นอาหารได้ก็ไม่ควรซื้อมาเจือจางเอง เพราะอาจได้ปริมาณกรดน้ำส้มที่เข้มข้นเกินไปจนก่อให้เกิดอันตรายได้
เลขาธิการ อย. กล่าวด้วยว่า การเลือกซื้อน้ำส้มสายชูอย่างปลอดภัยให้สังเกตที่ฉลาก ต้องมีเลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. ซึ่งแสดงว่าผ่านการตรวจสอบจาก อย. แล้ว สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย และขอให้ร้านค้า โดยเฉพาะร้านขายอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติกใส่น้ำส้มสายชู และต้องไม่นำหัวน้ำส้มมาเจือจาง รวมทั้งขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยร้องเรียน แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายอาหารที่ต้องสงสัยว่าผลิตหรือจำหน่ายอาหารที่ไม่ปลอดภัยในการบริโภคมาที่ อย. โทร.0-259-7354-5 หรือ 1556 กด 0 หรือแจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่พบปัญหานั้น เพื่อใช้มาตรการตรวจจับและดำเนินการตามกฎหมาย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการ
update 26-01-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ภราดร เดชสาร