มศว.เจ๋งรายแรกโลกพิชิต ‘เบาหวาน’

ช่วยผู้ป่วยไม่ต้องตัดเท้า-ขา

 

มศว.เจ๋งรายแรกโลกพิชิต ‘เบาหวาน’ 

          “มศว” เจ๋งค้นพบวิธีดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน รักษาแผลเรื้อรังที่เท้าได้สำเร็จครั้งแรกของโลก ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องสูญเสียนิ้วเท้าหรือตัดขา หวังช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 40,000 คนต่อปี

 

          ผศ.นพ.ณรงค์ชัย ยิ่งศักดิ์มงคล แพทย์ศัลยกรรมทั่วไป ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) และหัวหน้าโครงการวิจัยเรื่อง วิธีใหม่ในการรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เปิดเผยว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคเบาหวานจำนวน 4 ล้านคน และในจำนวนผู้ป่วยเบาหวาน ถ้าเป็นโรคนี้นานๆ จะเกิดภาวะแทรกซ้อน

 

          โดยจะเกิดการตีบตันของเส้นเลือดแดง เป็นสาเหตุให้ปลายประสาทเสื่อม ส่งผลให้เกิดอาการชาที่ปลายเท้า ปลายมือ ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นไม่เพียงพอ หากเกิดแผลจะเรื้อรังและลุกลาม จนเป็นสาเหตุทำให้ถูกตัดนิ้วเท้าหรือตัดเท้า

 

          ในเมืองไทยปีหนึ่งๆ มีผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องตัดนิ้วเท้า ตัดเท้า ตัดขา เกือบ 40,000 คน และทั่วโลกจะมีผู้ป่วยโรคเบาหวานถูกตัดนิ้วเท้า ตัดเท้า ตัดขา ตัดนิ้วมือ ตัดมือ ตัดแขน ปีละเกือบ 1 ล้านคน ปัญหาภาวะแทรกซ้อนจากการป่วยเป็นโรคเบาหวานจึงเกิดขึ้นทั่วโลก

 

          จากความทุกข์ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทำให้ทางโครงการคิดวิจัยเพื่อหาแนวทางใหม่ในการรักษาแผลที่เท้าในผู้ป่วยโรคเบาหวานขึ้นมา โดยใช้ยา immunokine หรือ wf 10 ผสมในน้ำเกลือฉีดเข้าสู่เส้นเลือดภายใน 4 – 6 ชั่วโมง โดยฉีดวันละครั้งติดต่อกัน 1 คอร์ส ซึ่งใช้เวลา 5 วัน จากนั้นจะดูผลประมาณ 1 สัปดาห์ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ให้ยาเป็นคอร์สที่ 2 อาการจะเริ่มดีขึ้น ผู้ป่วยบางรายใช้ยาคอร์สเดียวก็จะมีอาการดีขึ้น บางรายอาจจะต้องใช้ถึง 2 คอร์ส อาการที่ดีขึ้นของผู้ป่วยจะเริ่มจากภาวะการอักเสบดีขึ้น ภาวะเนื้อที่ตายเริ่มดีขึ้น มีเนื้อใหม่งอกเพิ่มขึ้น

 

          จุดเด่นของการให้ยา immunokine หรือ wf 10 ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนเป็นแผลเรื้อรัง เมื่อให้ยาผู้ป่วยไปสู่เนื้อเยื่อ ตัวยาจะแตกตัวเป็นออกซิเจน ซึ่งออกซิเจนจะไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวที่อยู่บริเวณบาดแผลให้เริ่มแข็งแรงขึ้น เมื่อเม็ดเลือดขาวบริเวณแผลแข็งแรงขึ้น มันก็เก็บกินเชื้อโรคและเนื้อที่ตายกิน จึงทำให้แผลเริ่มหาย อาการอักเสบและติดเชื้อมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

          นอกจากนี้ ตัวยาดังกล่าวยังไปกระตุ้นเซลล์ที่สร้างหลอดเลือดและเซลล์ที่สร้างเนื้อเยื่อ แผลที่ลึกๆ ก็จะตื้นขึ้น มีเนื้อแดงงอกขึ้นมาใหม่ แผลจะค่อยๆ หายภายใน 2 เดือน

 

          ผศ.นพ.ณรงค์ชัย กล่าวอีกว่า แม้ยา immunokine หรือ wf 10 จะเป็นยานำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ซึ่งหลายคนอาจจะกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ผู้ป่วยต้องเดินทางไปทำแผลทุกวันเป็นเดือนเป็นปี ล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น บางคนต้องหยุดงาน ญาติพี่น้องต้องพาไปรักษา และยังต้องซื้อยาชนิดอื่นๆ มารักษา และถ้าอาการไม่ดีขึ้น แพทย์ก็จะตัดสินใจตัดอวัยวะส่วนที่เป็นแผลออก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไข้กลัวและมีความทุกข์มาก

 

          แต่ถ้าใช้วิธีรักษาโดยการให้ยา immunokine หรือ wf 10 ผู้ป่วยจะใช้จ่าย 20,000 บาทต่อ 1 คอร์ส ส่วนผลข้างเคียงเมื่อใช้ยา immunokine หรือ wf 10 อาจจะมีภาวะเลือดจางบ้างเล็กน้อย

 

          งานวิจัยชิ้นถือเป็นงานวิจัยชิ้นแรกของโลก เพราะยังไม่มีการทำวิจัยโดยนำยาชนิดนี้มารักษาแผลเรื้อรังที่เกิดจากโรคเบาหวาน โดยปกติยา immunokine หรือ wf 10 จะนำไปใช้กับอาการอักเสบเรื้อรังในผู้ป่วยโรคมะเร็งและทำการฉายแสง

 

          ในปัจจุบันมีการนำตัวยา immunokine หรือ wf 10 ไปใช้ร่วมกับเคมีบำบัดรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งตับอ่อนและมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนการนำยา immunokine หรือ wf10 มาใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานและเป็นแผลเรื้อรัง ยังไม่มีใครทำการวิจัยชิ้นนี้เลย 

 

          ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานท่านใดสนใจและต้องการรักษาด้วยวิธีการใช้ยา immunokine  หรือ  wf 10 สามารถติดต่อมาได้ที่ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โทร.037-395-085-6 ต่อ 11215

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

ภาพประกอบ: อินเทอร์เน็ต

 

 

update 13-07-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code