ผงะเด็กไม่กล้าปฏิเสธเซ็กซ์ก่อนวัย

เผยโจ๋ร้อยละ 8 คิดฆ่าตัวตาย!!

 

          สถาบันสุขภาพเด็กเผยเด็กไทยไม่กล้าปฏิเสธเมื่อเพื่อนชวนชวนเสพยาเสพติด และมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ขณะที่สาธารณสุขระบุเด็กร้อยละ 8 มีปัญหาด้านสุขภาพจิตและคิดฆ่าตัวตาย ชี้โรงเรียนมีปัญหาเรื่องยาเสพติดและความรุนแรงถึงร้อยละ 30

 

          ในการจัดสัมมนาหัวข้อ “การสร้างต้นทุนชีวิตเพื่อการแก้วิกฤตเด็กและเยาวชนในประเทศไทย” จัดโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ร่วมกับแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

 

          นพ.สุริยเดว ทรีปาตี หัวหน้าคลินิกเพื่อนวัยทีน สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และผู้จัดการงานพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชน กล่าวรายงานสภาวการณ์ต้นทุนชีวิตของเยาวชนไทยในภาพรวมเกี่ยวกับต้นทุนเด็กไทยกับยาเสพติดว่า

 

          เราเก็บรวบรวมข้อมูล 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเยาวชนทั่วไปที่ปลอดจากยาเสพติดในสถานศึกษา และกลุ่มที่ 2 เป็นเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นเยาวชนที่อยู่ในหน่วยงานรองรับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดอายุระหว่าง 14 – 18 ปี โดยสุ่มตัวอย่างจาก 4 ภาคทั่วประเทศ แบ่งเป็นภาคเหนือ 4 จังหวัด ภาคอีสาน 5 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด และภาคใต้ 4 จังหวัด กรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

          พบข้อมูลว่ากลุ่มเยาวชนทั่วไปทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนน้อยเพียงร้อยละ 34.52 ต่อสัปดาห์ ส่วนเยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจทำกิจกรรมกับชุมชนร้อยละ 33.39 ต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ พบอีกว่าทั้ง 2 กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมไม่กล้าปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร รวมถึงหลีกเลี่ยงยาเสพติดและความรุนแรง โดยกลุ่มที่อยู่ในโรงเรียนกล้าปฏิเสธพฤติกรรมดังกล่าวเพียงร้อยละ 45.74

 

          นายโสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากที่กรมอนามัยได้สำรวจเด็กทั่วประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ โดยใช้แบบสอบถามขององค์การอนามัยโลก พบข้อมูลที่น่าสนใจว่าเด็กมีปัญหาด้านสุขภาพจิตและคิดจะฆ่าตัวตายประมาณร้อยละ 8 ส่วนใหญ่อยู่ในชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 – 3 ส่วนอีกร้อยละ 26 ระบุว่าผู้ปกครองไม่ค่อยให้ความสนใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยมีปัญหา ขาดคนพูดคุยดูแลเด็ก ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ถือเป็นการทำวิจัยครั้งแรก จึงถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจพอสมควร นอกจากนี้ผลการสำรวจยังพบว่าเด็กและเยาวชนยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพอนามัย ยาเสพติด และความรุนแรงในโรงเรียนถึงร้อยละ 30

 

          “ผลสำรวจเหล่านี้เราจะรวบรวมเป็นข้อมูลเพื่อประมวลหาสาเหตุการคิดฆ่าตัวตายของเด็กว่ามาจากเหตุอะไร โดยเชื่อว่ากรมสุขภาพจิตและกระทรวงศึกษาธิการน่าจะรับทราบข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว จากนี้เราคงต้องร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาและเฝ้าระวังต่อไป ทั้งนี้ เรากำลังจัดทำคู่มือสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพจิตและควบคุมพฤติกรรมการฆ่าตัวตายของเด็ก ซึ่งจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้” นพ.โสภณกล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

 

 

update 01-07-52

อัพเดเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก