“ปืนอัดลมเลเซอร์” อันตรายถึงตาบอด
เตือนอันตรายจากปืนอัดลมเลเซอร์ หวั่นกำลังแสงเลเซอร์ค่าเกินมาตรฐาน อาจมีผลทำให้จอประสาทตาไหม้ได้ ขณะที่ความเร็วและความแรงของวิถีกระสุนปืนมีค่าเกินมาตรฐานของเล่น 2-3 เท่า
นายภาสกร บุญสม ผู้อำนวยการส่วนประสานงานภาครัฐและเอกชนสำนักแผนและการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ได้รับหนังสือจากศาลากลาง จังหวัดลำพูน กรณีเรื่องร้องเรียนที่พบว่ามีเด็กที่อยู่ใกล้บ้านกับผู้ร้อง ได้ซื้อสินค้าประเภทปืนอัดลมคล้ายปืน hk ซึ่งลักษณะปืนอัดลมดังกล่าวมีลำกล้องเล็งที่มีแสงเลเซอร์สีแดง และเห็นว่าเลเซอร์แสงในกล้องอาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กหรือผู้เล่นได้หากมีการส่องดู เนื่องจากแสงเลเซอร์นั้นสามารถสะท้อนกลับมาที่ได้ตาได้
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ตระหนักถึงความไม่ปลอดภัยและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภค จึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทำการทดสอบ 4 รายการวิเคราะห์ ได้แก่ 1. ความยาวคลื่นแสงเลเซอร์ 2. กำลังแสงเลเซอร์ 3. ความเร็วของวิถีกระสุนปืน 4. ความแรงของวิถีกระสุนปืน พบว่า ความยาวคลื่นแสงและกำลังแสงเลเซอร์ที่วัดได้มีค่าเกินมาตรฐานกำหนด 3-4 ซึ่งหากจ้องนานเกิน 0.25 วินาที อาจมีผลทำให้จอประสาทตาไหม้ได้ ขณะที่ความเร็วและความแรงของวิถีกระสุนปืนที่วัดได้มีค่าเกินกว่าที่มาตรฐานของเล่นกำหนด 2-3 เท่า
ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงเตรียมแนวทางแก้ไขในกรณีความไม่ปลอดภัยของปืนอัดลมเลเซอร์ ดังนี้
– ดำเนินการเรื่องฉลาก โดยพิจารณากำหนดให้ “ปืนอัดลมเลเซอร์” เป็นสินค้าควบคุมฉลาก โดยต้องระบุคำเตือน “สินค้านี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี”
– ให้คณะกรรมการว่าด้วยฉลากมีอำนาจกำหนดให้ปืนอัดลมเลเซอร์เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะเร่งรัดให้มีการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เพื่อพิจารณา เรื่องนี้อย่างเร่งด่วนภายใน 30 วัน
ทั้งนี้หากมีการประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากแล้ว แต่ยังมีการ่าน ผู้สั่งหรือผู้นำเข้ามาเพื่อขายจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าที่ควบคุมฉลากแต่ไม่จัดให้มีฉลากที่ไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน