ปรามแผนเซ็กซี่ ลดยอดขายน้ำเมา

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม เครือข่ายนักวิชาการเพื่อระวังปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต่างปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายสินค้ามากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ที่มาแรงและเป็นที่นิยมในกลุ่มนักดื่มและสามารถจูงใจการดื่มมากขึ้น คือการทำการตลาดแบบที่เรียกว่า เซ็กซี่มาร์เก็ตติ้ง โดยใช้ความเย้ายวนทางเพศเป็นตัวเรียกลูกค้า เช่น การจัดกิจกรรมภายในร้านโดยร่วมกับนิตยสารที่มีนางแบบเซ็กซี่มาจัดปาร์ตี้ การจัดปาร์ตี้โฟม ปาร์ตี้ชุดนอน ปาร์ตี้บิกินี่ โดยผู้เข้าร่วมจะได้สิทธิพิเศษรับเครื่องดื่มฟรีหรือราคาถูก

ปรามแผนเซ็กซี่ ลดยอดขายน้ำเมา

นอกจากนี้ ตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ มีการใช้สาวสวย หุ่นดี คอยเรียกแขก หรือเต้นโชว์ในร้านเพื่อเรียกให้แขกที่ต้องการดูโชว์ฟรี เพื่อกระตุ้นการกินฟรีดื่มฟรีส่งผลให้นักดื่มทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชน สามารถซื้อดื่มได้ง่ายในราคาที่ถูก ซึ่งการตลาดดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้มีการดื่มมากจนมึนเมาและครองสติไม่ได้ และอาจนำไปสู่ปัญหาตามมา เช่นการทะเลาะวิวาท การลวนลามและละเมิดทางเพศ ไปจนกระทั่งถึงการก่อความรุนแรง การก่ออาชญากรรมมากขึ้น

ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม ดร.นิษฐา กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดลักษณะนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ ตลาดของธุรกิจน้ำเมาหรือกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำเมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เพิ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ มีเพียงการให้ข่าวผ่านสื่อเท่านั้น ว่าเคารพกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมาย แต่หากพิจารณาดูจากการตลาดที่ทำ ทั้งกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นช่องทางการขาย จะพบว่าเป็นการทำการตลาดหรือการขายที่มีการเลี่ยงกฎหมายและผิดกฎหมายโดยตรง

“ล่าสุดมีผู้บริหารเบียร์ยักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่ง ออกมาประกาศอย่างภาคภูมิใจถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ ทั้งที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากสาเหตุความเมา ผู้ประกอบการสินค้า ควรแสดงความเสียใจและสำนึกต่อยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในช่วงเทศกาล รวมถึงสภาพความเสื่อมทางวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย ที่เสื่อมลงเพราะมีน้ำเมามาปนเปื้อน มากกว่าที่จะอวดอ้างยอดขายและกลบภาพร้ายๆ ด้วยการพูดถึงยอดเงินที่จะใช้เพื่อทำกิจกรรมรับผิดชอบต่อสังคม” นักวิชาการเพื่อระวังปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าว

ดร.นิษฐา กล่าวว่า รัฐบาลต้องสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตั้งแต่การควบคุมและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่มีความประสงค์จะขอใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายไปแล้ว มีมาตรการโซนนิ่งร้านค้าและสถานบันเทิง รวมถึงพวกร้านค้าส่ง มีการตรวจตราเชิงรุกอย่างเข้มข้นและสม่ำเสมอและบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ประกอบการ ผู้จัดการร้านพนักงานเสิร์ฟของร้านค้าหรือสถานบันเทิงที่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ด้านนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ เป็นที่ชัดเจนว่าทั้งอุบติเหตุ คนเจ็บตาย รวมไปถึงความรุนแรง การคุกคามทางเพศ การแต่งกายโป๊เปลือย ล้วนแล้วแต่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้น แต่น่าเสียใจว่า ในขณะที่เกิดความสูญเสียบวกกับภาพแห่งความเสื่อมที่เกิดขึ้นกับประเพณีไทย แต่ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลับมองว่าเป็นช่วงเวลาเงินเวลาทองในการเร่งทำตลาดและกระจายสินค้า

“ล่าสุดผู้บริหารเบียร์ยักษ์ใหญ่ยี่ห้อหนึ่งของไทย ออกมายอมรับอย่างภาคภูมิใจว่า กลยุทธ์การทำตลาดในช่วงไตรมาส 2 ไฮไลต์อยู่ที่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นฤดูการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีสัดส่วนยอดขายที่สูงขึ้น 3 % เป็น 2,000 ล้าน ในขณะที่ค่ายเบียร์อีกยี่ห้อหนึ่งก็คาดการไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายจะโตขึ้น 7-8 % เช่นกัน ซึ่งมันเป็นภาพที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง”

“ธุรกิจกอบโกยมีแต่ได้กับได้ แต่ประชาชนและสังคมไทยเป็นฝ่ายสูญเสีย ควรต้องถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะทวงถามความรับผิดชอบของธุรกิจน้ำเมากันอย่างจริงจังเสียที เอาแค่ความรับผิดชอบด้วยการปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าพยายามหาช่องว่างเพื่อสร้างยอดขาย แค่นี้ปัญหาก็ลดลงไปไม่น้อยแล้ว ดีกว่าไปสร้างภาพ ทำ csr แบบปลอมๆ และควรหยุดเสียทีกับการทำการตลาดน้ำเมาแบบเซ็กซี่มาร์เก็ตติ้ง”นายจะเด็จ กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code