บทเรียนสงกรานต์ ปลอดน้ำเมา ลดอนาจาร

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพบรรยากาศสงกรานต์แต่ละปี นอกจากการปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีของสงกรานต์ รดน้ำดำหัวแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ หรือสรงน้ำพระก่อพระเจดีย์ทราย ทำบุญอัฐิบรรพบุรุษ ฟังเทศน์ฟังธรรมในเทศกาลแห่งบุญกุศลแล้ว

บทเรียนสงกรานต์ ปลอดน้ำเมา ลดอนาจาร

ยังมีภาพการเล่นน้ำสงกรานต์ของวัยรุ่นหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยความ สนุกเมามันส์ ทั้งเล่นแป้ง ตระเวนขับรถกระบะที่ขนผู้โดยสารเต็มพิกัดเล่นสาดน้ำ และที่เห็นเพิ่มขึ้นทุกปีเป็นการขึ้นไปเต้นโชว์ด้วยลีลาเร่าร้อนของบรรดาสาวน้อยใหญ่นุ่งสั้นสายเดี่ยวไปกับจังหวะเพลงที่เปิดเสียงดังอึกทึกครึกโครม

ปีนี้กรณีสามสาววัยรุ่นเปลือยอกเต้นโชว์บนหลังคารถยนต์ ขณะไปเที่ยวงานสงกรานต์ บนถนนสีลมท่ามกลางผู้คนที่แห่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ย่านสีลมแน่นขนัด โดยมีคนบันทึกและเผยแพร่เป็นคลิปหรือภาพเคลื่อนไหวส่งต่อกันในโลกออนไลน์ แพร่กระจายไปทั่ว จนกลายเป็นเรื่องฉาวของสงกรานต์ปีนี้ เมื่อปรากฏเป็นข่าวตามสื่อสิ่งพิมพ์ และโทรทัศน์

นำมาสู่การติดตามตัวสามสาวมาดำเนินคดีตามข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้า ธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่น ซึ่งเยาวชนทั้งหมดก็สำนึกผิดพร้อมกราบขอโทษสังคมที่ได้ทำให้ประเพณีสงกรานต์ มัวหมอง ถือเป็นบทเรียนให้บรรดาวัยรุ่นมีสติในการฉลองสงกรานต์ในปีต่อไป โดยไม่ทำลายขนบธรรมเนียมและชื่อเสียงของประเทศ

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปดูสถิติที่มักเกิดขึ้นในเทศกาลสงกรานต์ พบว่าปี พ.ศ.2550 มีภาพความรุนแรง วัยรุ่นเลือดร้อนยกพวกตีกันวันสงกรานต์ ถือว่ามีความรุนแรงสูงถึง 20% สำหรับปี พ.ศ.2551 มีเรื่องความประมาท ความคึกคะนอง และเมาแล้วขับมาก ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 361 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บในช่วงเทศกาลอีกกว่า 4,000 คนเลยทีเดียว ดังนั้นในปี พ.ศ.2551 นี้ สถิติด้านการเกิดอุบัติเหตุพุ่งสูงขึ้น 40% แน่นอนว่าเป็นภาพที่สังคมไทยไม่อาจปฏิเสธได้ และเป็นความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์เทศกาลแห่งความ รักความอบอุ่นของคนในครอบครัว ทั้งยังเป็นเทศกาลแห่งการเริ่มต้นปีใหม่ของไทยอีกด้วย

บทเรียนสงกรานต์ ปลอดน้ำเมา ลดอนาจาร

สำหรับปี พ.ศ.2552 ภาพวัยรุ่นวาดลีลาเต้นยั่วยวนและการทำอนาจารลวนลามในที่สาธารณะเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น ทำให้เกิดสถิติอนาจารในสงกรานต์ปีนั้นสูงถึง 30% ทุกวันนี้วันสงกรานต์วันสำคัญของประเทศชาติ หนีไม่พ้นเรื่องความรุนแรงและ อนาจาร แม้ปีนี้จะมีภาพสงกรานต์ปีใหม่ไทยให้เห็นอยู่ แต่จากการสำรวจพบว่า ภาพบรรยากาศประเพณีอันเป็นแก่นแท้ของสงกรานต์ในแต่ละปีมีแค่ 10% เท่านั้น สงกรานต์ในแต่ละปีสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการฉลองสงกรานต์ที่ ผิดเพี้ยนหนักอย่างน่าวิตกกังวลว่าประเพณีดั้งเดิมจะล่มสลายไป 

บทเรียนสงกรานต์ ปลอดน้ำเมา ลดอนาจารปีนี้ ในกรุงเทพมหานคร ภาพบรรยากาศสงกรานต์มีการขยับขยายจากถนนข้าวสารไปยังย่านถนนสีลมใจกลางเมือง ผู้คนสนใจมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์ที่ถนนสีลมอย่างคึกคัก มีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าเพราะอะไร สรุปได้ว่าหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทาง มีบริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถใต้ดินส่งตรงถึงพื้นที่ สภาพถนนตลอดเส้นมีร่มเงาจากรางรถไฟฟ้าปกคลุมกันแดดคลายร้อน รวมไปถึงย่านนี้เป็นแหล่งสถานบันเทิง ผับ บาร์ ทำให้การฉลองเต็มไปด้วยความสนุกสนานปาเข้าไปเที่ยงคืนก็ยังไม่มีทีท่าจะเลิกในแต่ละวัน 

ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องจากเยาวชนตลอดจนภาคีเครือข่ายที่ทำงานรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีการควบคุมพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ถนนสีลมในปีต่อไป เพราะพบว่า มีการปล่อยให้ขายน้ำเมากันอย่างเสรี จนเป็นเหตุเกิดความรุนแรงวัยรุ่นทะเลาะวิวาท ส่งผลให้เกิดผู้บาดเจ็บ

สภาพบรรยากาศถนนสีลมเต็มไปด้วยการเร่ขายเหล้าเบียร์ตามริมถนน ที่แย่ไปกว่านั้นขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมไปถึงปล่อยให้มีการลด แลก แจก แถม อาทิเช่น ขายเบียร์ด้วยการลดราคาดึงดูดผู้ซื้อในราคา 3 กระป๋อง 100 บาท แน่นอนว่าสิ่งที่ปรากฏขึ้นนี้ผิดกฎหมายน้ำเมา และเป็นผลพวงจากกลุ่มทุนธุรกิจน้ำเมาที่เน้นกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาล 

เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เรียกร้องให้พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปี พ.ศ.2555 มีการขยายโซนนิ่งเป็นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัย ไม่ไร้สติ ที่สำคัญรักษาประเพณีไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ควรอย่างยิ่งที่จะเพิ่มพื้นที่เหล่านี้ อย่างย่านถนนสีลมน้องใหม่มาแรงต้องมีหน่วยงานควบคุม มิฉะนั้น จะซ้ำรอยกรณีเด็กสาวเต้นเปลือยอกคืนวันสงกรานต์

ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ด้าน ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน แสดงทัศนะว่า ภาพเด็กหญิงเต้นโชว์สงกรานต์สีลม แม้เด็กสาวยอมรับผิด แล้วบอกกับสังคมว่าเป็นพฤติกรรมที่ทำประจำในสถานบันเทิงเพื่อแลกดื่มกินฟรี สะท้อนปัญหาเยาวชนไทยปัจจุบัน สาเหตุหลักจากครอบครัว และยิ่งไม่ได้เรียนหนังสือ ทำให้ไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ปัจจุบันมีเด็กไม่ได้เรียนกว่าหนึ่งล้านคน ขณะที่เด็กในสถานพินิจกว่าครึ่งมีรากฐานจากสถาบันครอบครัวอ่อนแอ

“มีข่าวเกิดขึ้นทีสังคมพุ่งเป้ามาที่ตัวเด็ก เห็นว่าถึงเวลาออกกฎหมายที่เข้มงวด เพื่อป้องกันเด็กเข้าสู่อบายมุขโดยง่าย ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองต้องลดช่องว่างให้ได้ ด้วยระบบเศรษฐกิจบีบรัด ต้องทำมาหากิน แต่ก็ไม่ควรละเลยดูแลเอาใจใส่บุตรหลาน แล้วก็สังคมไทยยังขาดระบบดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยง” ดร.อมรวิชช์ กล่าว

แต่ท่ามกลางข่าวเสื่อมโทรม เทศกาลสงกรานต์ ก็ยังมีข่าวที่ทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง นั่นคือ ผลสรุป 7 วันอันตราย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2554 ปีนี้สถิติอุบัติเหตุจราจรทางบกและยอดผู้บาดเจ็บลดลงกว่า 8.5% สรุปอุบัติเหตุรวม 3,215 ครั้ง เจ็บ 3,476 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตลดวูบเกือบ 25% อยู่ที่ 271 ศพ

ซึ่งสวนทางพฤติกรรมลามกอนาจาร ลวนลามสาวๆ วัยรุ่นตีกันในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ที่มีโซนนิ่งเป็นเขตปลอดน้ำเมาที่ทั้ง พุ่งสูงและรุนแรงขึ้น ส่วนสาเหตุการเจ็บตายช่วงเทศกาลก็ยังเกี่ยวข้องกับการดื่มสุรา เป็นอันดับต้นๆ ยังคงต้องเร่งสร้างจิตสำนึกปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันต่อไป ปีหน้าอยากเห็นสงกรานต์รูปแบบไหนขึ้นอยู่กับเราและสำนึกที่มีต่อสังคมไทย

ที่มา: สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า

Shares:
QR Code :
QR Code