นำร่องตำรวจ ลด ละ เลิก เหล้าเข้าพรรษา
เพื่อนหญิงจับมือสน.สำเหร่ หวังลดปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง
มูลนิธิเพื่อนหญิง จับมือ สน.สำเหร่ ชุมชนใกล้เคียง รณรงค์ตำรวจ ลด ละ เลิก เหล้า หวังลดปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง ผลักดัน พรบ.เหล้าเห็นผลเร็วขึ้น ผกก.หนุน เพิ่มประสิทธิภาพงาน ความเชื่อมั่น
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.52 มูลนิธิเพื่อนหญิง ร่วมกับสถานีตำรวจสำเหร่และเครือข่ายชุมชนลด ละ เลิกเหล้า ร่วมจัดงานเสวนาในโครงการ “สถานีตำรวจ (นำร่อง) ลด ละ เลิกเหล้า เข้าพรรษา” หวังลดอัตราการกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิงและมีสังคมที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พ.ต.อ.ถิร์สทัต บูรณะรัช ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ กล่าวว่า จากสถิติของปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมที่ผ่านมาพบว่า เหล้า เป็นสาเหตุต้นๆ ของการเกิดปัญหาสังคม โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายหรือกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งโครงการลด ละ เลิกเหล้าที่คนในชุมชนทำอยู่พบว่าสามารถลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ความเสียหายในชุมชนลงได้มาก หากนำโครงการนี้มาใช้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถือเป็นเรื่องที่ดี สังคมจะได้ปลอดเหล้าและคดีต่างๆ ก็ลดลง ที่สำคัญหากเจ้าหน้าที่ตำรวจดื่มสุราในระหว่างทำงาน จะทำประสิทธิภาพของงานลดลง ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่น โครงการนี้จึงเหมาะที่จะเร่งลงมือทำ
“เพื่อเป็นการนำร่องโครงการ สถานีตำรวจ (นำร่อง) ลด ละ เลิกเหล้า เข้าพรรษ สน.สำเหร่ จึงรณรงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนกว่า 100 นายเข้าร่วม แต่วิธีการ ลด ละ เลิก นั้นจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าหน้าที่แต่ละคนว่าตั้งใจจะ ลด ละ เลิกเหล้ากี่วัน โดยเชื่อว่า หากจะให้เจ้าหน้าที่เลิกไปเลยทันทีทันใดคงเป็นไปไม่ได้ แต่หากมีการลดปริมาณลงได้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเลิกอย่างถาวรในอนาคตได้” ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสำเหร่ กล่าว
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ที่ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิง เฉลี่ยถึงปีละ 1,500 ราย โดยร้อยละ 80 เป็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ร้อยละ 20 เป็นคดีข่มขืนและภัยทางเพศ โดยมีหลายกรณีที่เกิดขึ้นพบปัจจัยกระตุ้นที่ก่อให้เกิดความรุนแรง มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากที่สุด รองลงมาเป็นยาเสพติด และการพนัน นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้แจ้งเรื่องร้องเรียนจำนวนหนึ่งเป็นครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยเหตุนี้จึงมีแนวคิดที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นอีกช่องทางที่จะลดปัญหาในสังคมได้ โดยจะมีจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ ให้คำปรึกษา พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลตัวอย่างในการเลิกเหล้าของชุมชนใกล้เคียง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมีความต้องการที่จะเลิกเหล้า ที่สำคัญจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปประเมินผลเพื่อดำเนินโครงการต่อไป
ด้านนางเกษร ศรีอุทิศ เลขานุการ ชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่ กล่าวว่า โครงการ “สถานีตำรวจ (นำร่อง) ลด ละ เลิกเหล้า เข้าพรรษา” ต้องการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของบุคคลในชุมชนที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร่วมกันผลักดันให้ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เห็นผลมากขึ้นแล้ว ส่งผลให้สังคมปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแท้จริง ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถ ละ ลด เลิก ได้สำเร็จจะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงพร้อมปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์กฎหมาย ช่วงเข้าพรรษานี้จึงเหมาะที่จะเป็นจุดเริ่มต้น หากสถานีตำรวจหรือองค์กรอื่นๆ ต้องการที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถทำได้เพียงตั้งใจจริง
เรื่องโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่ team content www.thaihealth.or.th
update:01-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฐภัทร ตุ้มภู่