ชี้โลกวิกฤตน้ำรุนแรงใน 20 ปี

ดร.มาร์กาเร็ต คาตลีย์-คาร์ลสันผู้อำนวยการ Canadian Water Network (CWN) ที่มีบทบาทซึ่งร่วมกำหนดนโยบายและทำวิจัยด้านน้ำในแคนาดา เปิดเผยในที่ประชุมนานาชาติก่อนหน้า “วันน้ำโลก” ที่จะถึงในวันที่ 22 มีนาคมว่า ความต้องการน้ำในประเทศส่วนใหญ่ของโลกจะแซงหน้าแหล่งน้ำที่มีอยู่ 40% ภายใน 20 ปี ผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศบวกกับการเติบโตของประชากร โดยที่ 1 ใน 3 ของมนุษยชาติจะมีน้ำเพียงครึ่งเดียวเพื่อให้เพียงพอกับความจำเป็นขั้นพื้นฐาน

จากเหตุดังกล่าว ดร.คาตลีย์-คาร์ลสันได้เรียกร้องให้คิดหาวิธีใหม่เพื่อรับมือสถานการณ์ เพราะความขาดแคลนจะส่งผลกระทบต่อชุมชน เกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมที่ใช้น้ำมากถึง 71% ของอุปทานทั้งหมดย่อมส่งกระทบต่อการผลิตอาหารด้วย ทั้งนี้ ดร.คาตลีย์แนะให้แก้ปัญหาแบบ 2 ทางคือ เพิ่มอุปทาน และลดอุปสงค์ลง ซึ่งจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลงอยู่ระหว่าง 31,000-37,000 ล้านปอนด์ต่อปี เมื่อเทียบกับ 124,000 ล้านปอนด์หากใช้มาตรการเพิ่มแหล่งน้ำเพียงอย่างเดียว

ด้านนิโคลัส แอชบอล์ต แห่งสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐ เสนอให้ใช้มาตรการประหยัดน้ำ ซึ่งจะช่วยลดความต้องการใช้น้ำในครัวเรือนประเทศพัฒนาแล้วได้ถึง 70% เช่น นำอุปกรณ์ประหยัดน้ำต่างๆมาใช้ รวมถึงส้วมหมักปุ๋ยแห้งที่แปลงน้ำใช้แล้วมาใช้ใหม่ในการเกษตร และนำส่วนกากไปเป็นปุ๋ยบำรุงดิน สำหรับนวัตกรรมอื่นๆ อาทิ การออกแบบถนน บาทวิถีและถนนส่วนบุคคลให้สามารถดูดซับและเก็บน้ำฝนได้ เป็นต้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้