ชาวสมุทรสาคร รวมพลังสู้หวัด 2009
เมื่อ “ไข้หวัดนก” ระบาด เราก็กำจัด “ไก่” ยกเล้า
เมื่อ “ไข้หวัดหมู” ระบาด เราก็กำจัด “หมู” ยกเล้า
แต่เมื่อ “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” ที่ติดต่อจาก “คนสู่คน” ระบาด เราคงไม่อาจฆ่าคนเพื่อกำจัดไวรัสตัว ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุด ก็คือ “ทุกคน” ต้องร่วมมือร่วมใจกันสู้ภัยหวัด 2009 ดังที่ คณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ได้เดินหน้าหาทัพหนุนจากภาคภาคีเครือข่ายต่าง ๆ อย่างกองทัพไทย สกอ. ขสมก. ศธ. ฯลฯ เพื่อรวมพลังสู้หวัด 2009
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ คณะอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ก็ผนึกชาวสมุทรสาคร เป็นอีกหนึ่งพลังต้านภัยหวัด ในงาน “ชาวสมุทรสาคร รวมพลังสู้หวัด 2009” โดย นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้บอกกับชาวสมุทรสงครามว่า การรณรงค์ป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้น ยังต้องดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ และจังหวัดสมุทรสาครก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นเมืองที่มีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 4 พันแห่ง มีมูลค่าการผลิตแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท และเป็นตลาดอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่ส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศปีละกว่า 1 แสนล้านบาท ดังนั้น แรงงานจึงถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจดำเนินต่อไปได้ แต่หากแรงงานจำนวนมากป่วยเป็นหวัด 2009 ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องร่วมมือกันต้านภัยหวัด 2009
“จังหวัดสมุทรสาครมีประชากรเกือบ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้ใช้แรงงานไทยกว่า 8 แสนคน ต่างชาติกว่า 1.6 แสนคน แบ่งเป็นพม่า 1.5 แสนคน ลาวกว่า 4 พันคน กัมพูชากว่า 4 พันคน จากการตรวจสุขภาพของแรงงาน พบว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานมักป่วยด้วยโรค วัณโรค ซิฟิลิส และพยาธิเท้าช้าง ซึ่งผู้ใช้แรงงานต่างชาติ จะเดินทางกลับประเทศของตนด้วย คนกลุ่มนี้จึงเป็นอีกเป้าหมายสำคัญ ในการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมถึงโรงงานและตลาด ที่ต้องมีมาตรการคัดกรองพนักงานและจัดสุขอนามัยที่ดีภายในโรงงาน เพราะความปลอดภัยของผู้ผลิต หมายถึง ความปลอดภัยของผู้บริโภคด้วย ซึ่งหากโรงงานมีมาตรการที่ดีจะช่วยป้องกันได้ทุกโรคไม่เฉพาะไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยการรณรงค์ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก อสม.ประจำจังหวัดสมุทรสาครกว่า 500 ชีวิต” รมต.สธ.กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการ ฯ หวัด 2009 กล่าวว่า ตั้งแต่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อกว่า 200 คน แบ่งเป็นชาวไทย 281 ชาวกัมพูชา 1 ชาวพม่า 2 และชาวอเมริกัน 1 คน ซึ่งทุกฝ่ายก็ได้ร่วมกันเก็บข้อมูลและติดตามอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่มาก จึงตรงกับยุทธศาสตร์ในการป้องกันไข้หวัด 2009 ที่ต้องอาศัยการรวมพลังของทุกภาคส่วน
“มาตรการในโรงงานอุตสาหกรรมที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติร่วมกัน คือ 1.พนักงานต้องล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล 2.ไอจามต้องปิดปาก ปิดจมูก หรือใช้กระดาษทิชชู 3.ล้างทำความสะอาดสถานประกอบการทุกวัน รวมถึงต้องกำหนดวันล้างใหญ่อย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ 4.ทำความสะอาดจุดสัมผัสที่ใช้ร่วมกันบ่อย ๆ อาทิ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ เป็นต้น 5.พนักงานที่ป่วยจะได้รับสิทธิในการหยุดงานโดยไม่ถือวันลา” นพ.มงคล เล่าถึงมาตรการที่ควรมี
ไม่เพียงเท่านี้ ภายในงานยังมีการจัดขบวนรณรงค์ “ชาวสมุทรสาคร รวมพลังสู้หวัด 2009” นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.มงคล ณ สงขลา ร่วมกับศิลปินวงแบล็ควนิลา และขบวนชาว อสม. กว่า 100 ชีวิต และขบวนจักรยานยนตร์กว่า 50 คัน
ความร่วมมือร่วมใจที่ได้รับจากชาวสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภาคีต้านหวัด 2009 ที่มีความเข้มแข็ง เชื่อว่า ไม่มีพลังอันใดที่จะต่อต้านหวัด 2009 ได้เท่าพลังแห่งความสามัคคี ในการช่วยกันดูแลสุขอนามัยของตนเอง และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการ “กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่หน้ากากเมื่อเป็นหวัด”…
เรื่องโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th
Update 10-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์