จุดประกาย’เด็กไทย’หันมาดื่มนมกันจริงจัง

“ดื่ม ดื่ม ดื่ม เรามาดื่ม ดื่มนมกันเถอะดื่มแล้วอย่าทำเลอะเทอะ ดื่มนมเยอะๆ ร่างกายแข็งแรง” เพลงดื่มนมที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันดีตั้งแต่สมัยเป็นเด็กที่ต้องฝึกร้องกันจนขึ้นใจก่อนที่คุณครูจะแจกนมให้ดื่ม พร้อมกับย้ำว่าถ้าอยากตัวสูงต้องดื่มนมเยอะๆ แต่ในความเป็นจริง “นม” ไม่ได้ให้คุณประโยชน์แค่ความสูงสำหรับเด็กๆเท่านั้น นมยังมีสารอาหารครบ 5 หมู่ทั้ง โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ที่สำคัญนมมีแร่ธาตุแคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยสร้างกระดูกและฟัน จึงมีบทบาทอย่างยิ่งต่อพัฒนาร่างกายและสมองของเด็ก ตลอดจนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ


จุดประกาย'เด็กไทย'หันมาดื่มนมกันจริงจัง


จากคุณประโยชน์ของนมที่มีอยู่มากมายและมีความสำคัญต่อผู้คนทั่วโลก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ The Food and Agriculture Organization (FAO) จึงได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันดื่มนมโลก (World Milk Day) เพื่อให้ประเทศต่างๆ และองค์กรที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญ และสนับสนุนให้ประชาชนของตนได้บริโภคนมอย่างพอเพียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการบริโภคนมควบคู่ไปกับการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของนมแก่ประชาชน ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลกที่จัดกิจกรรมวันดื่มนมโลก เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม อังกฤษ ออสเตรเลีย สวีเดน และเดนมาร์ก เป็นต้น


สำหรับประเทศไทย ได้มีการจัดกิจกรรม “วันดื่มนมโลก” มาตั้งแต่ปี 2550 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนซึ่งในปี 2554 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กรมปศุสัตว์ และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบริโภคนม เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคนมสดแท้ 100%


นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ประเทศไทยผลิตน้ำนมดิบได้มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่คนไทยมีอัตราการดื่มนมเฉลี่ยเพียง 14.19 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่อัตราบริโภคนมโดยเฉลี่ยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 60 ลิตรต่อคนต่อปี และอัตราการดื่มนมทั่วโลกอยู่ที่ 103.9 ลิตรต่อคนต่อปี ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยหันมา ดื่มนมเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยเน้นการให้ความรู้ และกระตุ้นการสร้างนิสัยรักการดื่มนมในทุกเพศทุกวัยกรมปศุสัตว์ จึงได้ร่วมกับ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ และองค์การส่งเสริมกิจการ โคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จัดกิจกรรม วันดื่มนมโลกขึ้น


นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังจัดให้มีกิจกรรมดังกล่าวเพิ่มอีก 9 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่อุทัยธานี สระบุรี มหาสารคาม อำนาจเจริญ ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราชและสงขลา โดยรูปแบบของกิจกรรมจะดำเนินการควบคู่กับการให้ความรู้เกี่ยวกับนม ตั้งแต่การดูแลต้นน้ำจนถึงปลายน้ำกว่าจะมาเป็นน้ำนมที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ผู้บริโภคดื่ม และกิจกรรมความบันเทิงผสานความรู้ ตลอดจนเกมการละเล่นต่างๆ นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับการตรวจความแข็งแรงของมวลกระดูก มวลกล้ามเนื้อ ไขมัน และตรวจสุขภาพฟันฟรี


ด้านนายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค. กล่าวว่า การดื่มนมโดยเฉพาะนมสด นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ดื่มแล้วยังเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศให้สามารถขายน้ำนมดิบได้มากขึ้น ตลอดจนช่วยผลักดันการสร้างช่องทางใหม่ในการทำธุรกิจโคนมและน้ำนมสดอีกทางหนึ่งด้วย 


 


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code