คนไร้บ้านที่เร่ร่อน หาใช่คนที่ไร้โอกาสอันมั่นคง

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า


คนไร้บ้านที่เร่ร่อน หาใช่คนที่ไร้โอกาสอันมั่นคง thaihealth


แฟ้มภาพ


          เราเคยย้อนถามตัวเองไหมว่าผู้คนที่เราเดินสวน หรือพบเห็นอยู่ริมฟุตปาธ ใต้สะพานลอย ที่แต่งตัวรุงรัง เนื้อตัวมอมแมม นั่งพูดคนเดียว เขาเหล่านี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง และมีหนทางไหนที่จะช่วยคนเหล่านี้ได้บ้าง?


          คนเหล่านี้ สังคมจะให้คำจำกัด ความว่า คนไร้บ้าน โดยสังคมจะแบ่ง ออกเป็น สองกลุ่มคือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่ม ที่มีภาวะทางจิต คือ คิดระแวงว่ามีคนมา ทำร้าย ก็จะหนีออกจากบ้าน และอีกกลุ่ม คือ ผู้ใช้ยาเสพติดจนสมองเสื่อมอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้


          ซึ่งคนเหล่านี้หากได้รับการดูแลเยียวยาพัฒนาศักยภาพจะสามารถดูแลตนเอง ฟื้นฟูให้มีสุขภาวะที่ดี สามารถกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพได้ โดย ส่วนใหญ่ คนไร้บ้านประเภทแรกจะมีพฤติกรรม ลักษณะท่าทาง ดังนี้ 1.มีความหวาดระแวงก้าวร้าวท่าทางแปลก 2.แต่งกายไม่สะอาด หรือประหลาด 3.ตอบไม่ตรงคำถามหรือพูด คนเดียว 4.มีกลิ่นเหล้าหรือสารเสพติด 5.ตาขวางไม่เป็นมิตร 6.ไว้ผมรุงรัง ซึ่งสังเกตได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิต มีภาวะจำเป็นที่ต้องเข้ารับการรักษา


          หากจะมองกันถึงการแก้ปัญหาคนไร้บ้านจะพบว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สสส.ริเริ่มแนวคิดการแก้ปัญหาและให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการมาอย่าง ต่อเนื่อง ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญ ของการให้ความคุ้มครองสิทธิแก่ประชากรกลุ่มเฉพาะในกรณีผู้ป่วยไร้บ้านที่มีปัญหาสุขภาพจิต และเห็นว่าหากมีการพัฒนาระบบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยไร้บ้านมากขึ้น จะช่วยให้กลุ่มประชากรกลุ่มเฉพาะได้รับการรับรองคุ้มครองสิทธิ และได้รับการช่วยเหลือในสวัสดิการด้านต่างๆ ทั้งทางการแพทย์ หรือสวัสดิการทางสังคม ให้เท่าเทียมกับบุคคลอื่นที่ช่วยก่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย


          ด้วยเหตุนี้เองเมื่อไม่นานมานี้ สำนักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้ร่วมกับ 6 หน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และ 6.มูลนิธิกระจกเงา ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) ระบบการดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือดูแล ให้ความคุ้มครองสิทธิแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน ที่ห้องนภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่า โครงการนี้จะช่วยเหลือแก้ไข เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านไม่เพิ่มจำนวนมากขึ้นและลดจำนวนลง เพื่อกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


คนไร้บ้านที่เร่ร่อน หาใช่คนที่ไร้โอกาสอันมั่นคง thaihealth


          ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 2 กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการขับเคลื่อนดูแลผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญในการส่งเสริมให้องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนได้มาร่วมให้ความสนใจ ด้วยเห็นว่าหากมีการพัฒนาระบบ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยไร้บ้านมากขึ้น จะช่วยให้กลุ่มประชากรกลุ่มเฉพาะได้รับการรับรองคุ้มครองสิทธิ และได้รับการช่วยเหลือในสวัสดิการด้านต่างๆ ทั้งทางการแพทย์ หรือ สวัสดิการทางสังคม ให้เท่าเทียมกับบุคคลอื่น ที่ช่วยก่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย


คนไร้บ้านที่เร่ร่อน หาใช่คนที่ไร้โอกาสอันมั่นคง thaihealth


          นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก 9) สสส. กล่าวว่า การทำงาน เพื่อช่วยเหลืองานด้านสุขภาวะกับคนไร้บ้าน หรือคนในพื้นที่สาธารณะ เป็นเรื่องยากที่จะกำหนดนโยบายหรือวิธีการปฏิบัติ เพื่อให้คนไร้บ้านมีสุขภาวะที่ดีขึ้น แต่เราต้องทำทุกวิถีทาง การลงนาม MOU ครั้งนี้ จะเป็นตัวเชื่อมให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดมากขึ้น เพราะปัญหาคนไร้บ้านยังอยู่ในขั้นวิกฤติที่ต้องดูแลให้เข้าถึงบริการต่างๆ ทั้งด้านสุขภาวะอาหารที่ปลอดภัย ด้านการแพทย์ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที


คนไร้บ้านที่เร่ร่อน หาใช่คนที่ไร้โอกาสอันมั่นคง thaihealth


          ดร.นิฤมน รัตนะรัต ผู้อำนวยการหลักสูตร ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขา นโยบายสังคม คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมมศาสตร์ ผู้จัดการโครงการวิจัย เรื่องโครงการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ระบบการดูแลการให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน กล่าวว่า โครงการนี้ถือได้ว่า เป็นโครงการระยะที่ 2 เพื่อขับเคลื่อนเชิงนโยบายของระบบที่ต่อยอด มาจากการพัฒนาโครงการในระยะที่ 1 โดยทั้ง 7 หน่วยงานจะมาร่วมบูรณาการระบบผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามลำดับต่อไป


          "แปลกแต่จริง" ในเรื่องการรักษา ผู้ป่วยจิตเวช มีการระบุว่า ถ้าผู้ป่วยไม่เซ็น ชื่อยินยอมให้รักษาด้วยตนเองก็ไม่สามารถ เข้ารับการรักษาได้ โดยไม่คิดกันเลยว่า ผู้ป่วย จิตเวช ย่อมยากที่จะรับรู้เรื่องสิทธิของ ตนเองได้ แล้วใครจะมาเซ็นชื่อ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เราได้เห็น ผู้ป่วยทางจิตเร่ร่อน เพิ่มมากขึ้นในสังคม ทุกวัน โดยมีกลุ่มจิตเวช ที่เกิดจากผู้ใช้ยาเสพติดจนสมองเสื่อมอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ เป็นตัวเสริมที่ทำให้มีคนเร่ร่อนมากขึ้น


          การดูแลช่วยเหลือกลุ่มคนไร้บ้าน คือการสร้างพลังทางสังคมและลดการเหลื่อมล้ำ ที่ทำให้เกิดความเป็นธรรมกับ ทุกคนในประเทศ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนไปสู่ ประเทศไทย 4.0 โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


 


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code