โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 หนุนโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่
โรงเรียนเป็นเป้าหมายสำคัญ ในการป้องกันเยาวชนจาก “บุหรี่” ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดที่เป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่ยาเสพติดร้ายแรงชนิดอื่นๆ และทำให้เยาวชนก้าวสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ มากมาย เยาวชนจะใช้เวลาส่วนใหญ่ 3 ใน 4 ของแต่ละวันอยู่ที่โรงเรียน แนวโน้มที่เยาวชนคนใดคนหนึ่งจะตัดสินใจสูบบุหรี่หรือไม่นั้นจึงเกิดขึ้นที่โรงเรียน
โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีนักเรียนจำนวน 3,229คน ดร.พิมพ์มาส รังสรรค์สฤษดิ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ที่เห็นความสำคัญและสนับสนุนให้ดำเนินโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ขึ้น โดยเริ่มจากการจัดตั้งคณะทำงานด้านบุหรี่ มีคุณครูทุกคนดูแลรับผิดชอบร่วมกับนักเรียนแกนนำ จัดให้มีการประกาศนโยบายโรงเรียน เป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมายหน้าเสาธง จัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนไม่ให้มีมุมอับ ติดป้ายโรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ติดสติกเกอร์เขตปลอดบุหรี่ตามห้องต่างๆ โรงอาหาร และยานพาหนะของโรงเรียน ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนในโรงเรียนทราบโดยเสียงตามสาย แจ้งในที่ประชุมครูประชุมผู้ปกครอง และประชุมคนขับรถรับ-ส่งนักเรียนให้รับทราบทั่วกัน
มีการจัดการเรียนการสอน สอดแทรก ให้ความรู้เรื่องพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสุขศึกษา วิชาสังคมศึกษา และกิจกรรมนักเรียนแกนนำพี่สอนน้อง กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ทั้งในและนอกหลักสูตร มีการคัดกรองนักเรียนกลุ่มสูบ โดยประสานกับโรงพยาบาลหาดใหญ่ จัด “คลินิกไม่สูบบุหรี่” ที่โรงเรียน เพื่อช่วยเหลือนักเรียนให้เลิกสูบบุหรี่ โดยเชิญผู้ปกครองร่วมรับรู้ยอมรับปัญหา และหาแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาร่วมกัน นอกจากนี้ โรงเรียนสนับสนุนให้นักเรียนมีส่วนร่วมใน การจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยโรงเรียนมีนักเรียนแกนนำชมรม to be number one อยู่แล้ว มาเป็นผู้เรียนแกนนำชมรม to be number one อยู่แล้ว มาเป็นผู้ดำเนินกิจกรรม ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนในชุมชนใกล้โรงเรียน ส่วนใหญ่มาเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2
เยาวชนเหล่านี้พบเห็นภาพการสูบบุหรี่ใบจากของผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน ทำให้เยาวชนกลุ่มนี้เห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่ปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน เกิดการเลียนแบบผู้ใหญ่โดยสูบบุหรี่ใบจากก่อน แล้วจึงสูบบุหรี่ที่อยู่ในยุคสมัยวัยรุ่นนิยม ตามกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทบุหรี่ ที่พยายามหาช่องทางในการสื่อ สารเพื่อให้เยาวชนสูบบุหรี่มากขึ้น เมื่อสูบจนติดแล้วก็ยากที่จะเลิกได้ ซึ่งทุกปีจะมีน้องๆ เยาวชนที่เข้าใหม่ติดบุหรี่มาจากสถานศึกษาเดิม ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหานักเรียนแกนนำ จึงนำทีมสู่โรงเรียนประถมเพื่อให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึกสร้างความตระหนักให้แก่เยาวชน ตั้งแต่ยังเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา เพื่อบ่มเพาะต้นกล้าเยาวชนให้มีภูมิคุ้มกันภัยจากบุหรี่ ด้วยกิจกรรม to be สอนน้อง ซึ่งพี่แกนนำจะผลิตเกมต่างๆ สอนน้องผ่านสื่อภาพโรคร้ายของบุหรี่ เกมต่างๆ ให้ความรู้เรื่องกลยุทธ์การตลาดของบริษัทบุหรี่ ให้เห็นโทษพิษภัยอันตรายของบุหรี่ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง รวมทั้งสิ่งแวดล้อมให้น้องๆ ได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน และเป็นการสร้างกระแสบ้านปลอดบุหรี่อีกทางหนึ่ง โดยให้น้องๆ บอกต่อผู้ปกครอง นอกจากจะให้ความรู้ในระดับประถมศึกษาแล้ว กิจกรรม to be สอนน้องผ่านสื่อเกมต่างๆ ยังนำไปใช้กับนักเรียนเข้าใหม่ ช่วงเข้าค่ายปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ เพื่อเป็นเบ้าหลอมเด็กรุ่นใหม่ให้เข้าใจการไม่สูบบุหรี่ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นรุ่นใหม่ให้เข้าใจการไม่สูบบุหรี่ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การขยายผลการรณรงค์ลงสู่ชุมชน เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้อง ทำโดยเน้นกิจกรรมรณรงค์ให้บ้านปลอดบุหรี่ เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครอบครัวของนักเรียน มีส่วนร่วมในการป้องกันไม่ให้บุตรหลานสูบบุหรี่ และให้กำลังใจลูกหลานในการเลิกสูบบุหรี่โดยให้แกนนำซึ่งเป็นลูกหลานของชุมชนขยายเครือข่ายการรณรงค์ โดยการบอกต่อให้ความรู้ผ่านสื่อ แผ่นภาพเกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่เกิดจากบุหรี่ รู้เท่าทันการตลาดของบริษัทบุหรี่ เพื่อให้ผู้ใหญ่ได้มีความรู้ความเข้าใจในพิษภัยอันตรายของบุหรี่ ที่จะส่งผลอันร้ายแรงต่อลูกหลานจนเลิกสูบบุหรี่ในที่สุดและเกิดกระแสสังคมต่อต้านบุหรี่ และตื่นตัวลุกขึ้นมาร่วมสร้างสังคมปลอดบุหรี่ในชุมชน ร่วมมือร่วมใจดำเนินการให้ชุมชนของตนเป็นชุมชนเข้มแข็ง มีกระบวนการขับเคลื่อนกิจกรรมให้ชุมชนปลอดบุหรี่ได้อย่างยั่งยืน เมื่อชุมชนปลอดบุหรี่ ก็จะส่งผลให้กิจกรรมรณรงค์ในโรงเรียนมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย 100%ต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ โดย ครูธนพร ไพรพิสุทธิ์ เครือข่ายครูนักรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ รุ่นที่ 6