“แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ปลอดบุหรี่” สัญญาณดีของพื้นที่สาธารณะทำคนสุขภาพดี
ศูนย์การค้าเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ห้างใหญ่ใจกลางกรุง ที่มากไปด้วยเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า เครื่องประดับ ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าและสาวๆ รวมไปถึงชาวต่างชาติชอบไปช็อปปิ้งสินค้ากลับบ้านกันอย่างคึกคัก
เดิมทีเราจะเคยเห็นบรรยากาศบริเวณหน้าห้างที่มีผู้คนสูบบุหรี่ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะที่นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 กำหนดให้ห้างสรรพสินค้าเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ผู้บริหารแพลทินัมจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการกำหนดให้เป็นเขตปลอดบุหรี่สอดรับตามนโยบายและช่วยให้ผู้ประกอบการและประชาชนผู้ใช้บริการรักษาสิทธิของตนเองจากการได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสอง รวมทั้งความปลอดภัยจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้ที่มาจากก้นบุหรี่ชิ้นเล็กๆ เพียงชิ้นเดียว
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จึงร่วมกับศูนย์การค้าเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ กรุงเทพมหานคร ร่วมผนึกกำลังเดินหน้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ “แพลทินัม” เป็นแฟชั่นมอลล์ปลอดบุหรี่ โดยจัดกิจกรรมสร้างกระแสชวนผู้ประกอบการ ประชาชนให้รับรู้ถึงข้อกำหนดใหม่นี้ ภายใต้กิจกรรม “No Smoking Shopping Mall” โดยมี นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมกล่าวว่า แต่ละปีจะมีคนไทยที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 5 หมื่นคน แม้การสูบบุหรี่จะไม่มีความสูญเสียทางทรัพย์สินแต่ก็สร้างความรำคาญแก่ผู้ใกล้เคียง ประกอบกับปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะหลายแห่ง ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทางห้างแพลทินัมที่มีผู้คนมาใช้บริการถึงวันละ 5 คน ได้ปฏิบัติตามกฎ นับเป็นก้าวสำคัญนำไปสู่สังคมปลอดบุหรี่ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการรับรู้และเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่นด้วย
ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การประกาศให้ห้างสรรพสินค้าเป็นเขตปลอดบุหรี่มีการบังคับใช้มาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว บางแห่งก็มีความเข้มงวดในการบังคับใช้ แต่บางแห่งก็ยังพบมีผู้สูบ อย่างแพลทินัมซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการกว่า 30%ซึ่งได้ประสานไปยังมูลนิธิฯ เพื่อขอคำแนะนำในการปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าประชาชนผู้ใช้บริการไม่ทราบว่าห้างสรรพสินค้าเป็นเขตปลอดบุหรี่ ดังนั้นการรณรงค์ในครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการประชาสัมพันธ์ให้รับทราบอย่างทั่วถึง โดยต้องติดป้ายประกาศให้ทั่วพื้นที่ห้างอย่างชัดเจน เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากเพลิงไหม้ได้อีกด้วย เพราะที่ผ่านมาจากข้อมูลพบว่าในต่างประเทศ 1 ใน 6 ของสาเหตุไฟไหม้เกิดจากการสูบบุหรี่
“ผมเชื่อว่าห้างหลายแห่งคงรู้ถึงกฎหมายแล้วเพราะมีการประกาศมาแล้ว 20 ปี เพียงแต่เจ้าของพื้นที่เห็นว่าพื้นที่เขามีปัญหาหรือไม่ แต่ในแพลทินัมมีปัญหาเลยประสานมายังมูลนิธิฯ เพื่อขอคำแนะนำ อย่างไรก็ตามผมคิดว่าทาง กทม. สธ.อาจต้องเข้มงวดตรวจตราการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย” เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่กล่าว
ส่วนสถานการณ์ของผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยนั้น ศ.นพ.ประกิตบอกว่า จากผลการสำรวจล่าสุด พบว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ ปี 2554 เมื่อเทียบกับปี 2552 เพิ่มขึ้น 5 แสนคน ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ไม่ดี อัตราการสูบอายุระหว่าง 15-24 ปีก็มีมากขึ้น เนื่องจากผลการโฆษณาส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่เราต้องเร่งเดินหน้ารณรงค์และต่อสู้ต่อไปเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น
โดย ศ.นพ.ประกิตยังได้ฝากทิ้งท้ายว่า เนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ จึงอยากจะให้คนที่สูบบุหรี่ได้ใช้วันนี้ตัดสินใจที่จะเลิกสูบ เพราะมีเพียง 1 ใน 3 ที่เลิกได้ อย่าเพียงแต่คิดว่าจะเลิก ต้องลงมือเลิก และหากไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร โรงพยาบาลทุกแห่ง ร้านขายยา รวมทั้งฮอตไลน์โทร. 1600 ช่วยให้คำแนะนำการเลิกสูบบุหรี่ได้
ด้าน นายศิริชัย ประพันธ์ธุรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ-ฝ่ายบริหารอาคารเดอะแพลทินัม แฟชั่นมอลล์ กล่าวว่า ทางห้างแพลทินัมจะเริ่มติดป้ายประกาศห้ามสูบบุหรี่เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการรับทราบในเบื้องต้น หากยังพบเห็นผู้ละเมิดก็จะมีการตักเตือน ทั้งนี้การให้ห้างสรรพสินค้าเป็นเขตปลอดบุหรี่นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว เนื่องจากห้างสรรพสินค้ามีสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ ดังนั้นการลดเรื่องนี้ก็จะทำให้ทุกคนที่อยู่ในตึกนี้ได้รับความปลอดภัยด้วย ส่วนพนักงานของห้างแพลทินัมที่สูบบุหรี่ที่มีประมาณ 5%ก็จะมีการประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจเพื่อส่งไปบำบัดให้เลิกบุหรี่
“ทางห้างจะประกาศชัดเจนในการเป็นเขตปลอดบุหรี่ แม้แต่รอบนอกอาคารก็จะไม่มีการจัดให้เป็นพื้นที่สูบบุหรี่ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากเพราะการงดสูบบุหรี่ในพื้นที่ห้างนอกจากจะได้เรื่องของสุขภาพแล้ว แม้ก้นบุหรี่สักก้นหนึ่งไปติดเสื้อผ้าสักชิ้นก็นับว่าอันตรายมาก การจัดพื้นที่ในลานจอดรถหรือห้องใดห้องหนึ่งก็มีโอกาสที่ก้นบุหรี่จะกระเด็นหรือถูกลมพัดมาติดไฟได้ ซึ่งก็เชื่อว่าก็คงเหมือนห้างอื่นๆ เพราะผมเชื่อว่าหลายๆ ห้างก็ปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว และก็เป็นห่วงเรื่องของอัคคีภัยเหมือนๆ กัน เพียงแต่ประชาชนไม่รู้ว่าบริเวณอย่างนี้สูบไม่ได้ ดังนั้นหากมีโอกาสอยากเชิญชวนทุกห้างหากเราร่วมกันประกาศตัวออกมาแบบนี้ ห้างที่ไม่จัดพื้นที่สูบบุหรี่จะไม่ใช่ห้างที่แปลก ถ้าทุกคนทำในลักษณะนี้เหมือนกัน แต่หากเราทำคนเดียว คนอื่นไม่ได้ทำด้วย ก็จะมีข้ออ้างประมาณนี้ว่าทำไมห้างอื่นมีที่สูบ แล้วทำไมห้างนี้ไม่มีที่สูบ ซึ่งตอนก่อนหน้านี้เราก็จะเจอปัญหานี้ เราจึงอยากยึดหลักที่ถูกต้อง”นายศิริชัยกล่าว
(จากซ้ายไปขวา) นายศิริชัย ประพันธ์ธุรกิจ , นพ.นพพร ชื่นกลิ่น และ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
ด้านนายเมธี สร้อยพาน เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ห้างแพลทินัม บอกว่า การประกาศชัดเจนให้ห้างแพลทินัมเป็นเขตปลอดบุหรี่นับเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก เพราะทุกคนก็ทราบดีว่าการสูบบุหรี่ให้โทษมากมาย และยังเป็นที่รังเกียจของบุคคลรอบข้าง ซึ่งนับเป็นก้าวต่อไปของห้างที่ผู้ใช้บริการจะได้รู้จักว่าห้างแพลทินัมเป็นศูนย์การค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและปลอดบุหรี่ เชื่อว่าจะทำให้เพิ่มยอดผู้ใช้บริการมากกว่านี้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะคอยดูแลให้เป็นไปตามนโยบาย โดยเบื้องต้นจะเข้าไปแนะนำกับผู้ที่ละเมิดอย่างสุภาพ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่สูบบุหรี่ แต่ขณะนี้สามารถลดบุหรี่ลงได้แล้วเพื่อครอบครัว จากเดิมซองครึ่งต่อวัน ปัจจุบันเหลือประมาณ 2 มวนต่อวัน โดยเมื่อรู้สึกอยากสูบก็เลือกอมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งแทน จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ให้คิดถึงครอบครัวเป็นอันดับแรก เพราะเมื่อเลิกได้แล้วสุขภาพดีขึ้นอย่างมากและครอบครัวก็อบอุ่นด้วย
นับเป็นสัญญาณที่ดีที่พื้นที่สาธารณะ อย่างห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะแพลทินัมที่ถือเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติจำนวนมาก จะทำให้พื้นที่แห่งนี้ปลอดบุหรี่ เท่ากับเป็นการประกาศให้ต่างชาติรับรู้ว่าไทยเราให้ความสำคัญและตระหนักถึงสุขภาพของคนไทยมากเพียงใด
เรื่องโดย : สุนันทา สุขสุมิตร Team content www.thaihealth.or.th