แพทย์เตือน! ผู้ป่วยชอบทดลองยาสมุนไพร

ชี้ เบาหวาน ไม่มียารักษาให้หายขาด

 แพทย์เตือน! ผู้ป่วยชอบทดลองยาสมุนไพร

          นพ.สาโรจน์ มะรุมดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรคเบาหวานกำลังคุกคามสุขภาพของประชาชนมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการป้องกันโรค โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สนับสนุนให้ประชาชนออกกำลังกาย กินอาหารหวานน้อยลง เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานขณะนี้กว่าร้อยละ 80 มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการกิน ที่เหลือเกิดจากกรรมพันธุ์ ปัญหาสำคัญของผู้ป่วยเบาหวานคือ การควบคุมระดับน้ำตาล หากควบคุมได้ไม่ดีจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ในหลายระบบของร่างกาย ที่สำคัญคือจอประสาทตาเสื่อม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเบาหวานขึ้นตา หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ตาบอดอย่างถาวร

 

          นพ.สาโรจน์ กล่าวต่ออีกว่า  ในกรณีผู้ป่วยเบาหวานที่มีน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานหลายปี จะมีผลทำให้เส้นเลือดฝอยทั่วร่างกายเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะที่ตา ผนังหลอดเลือดในจอประสาทตาจะเกิดความผิดปกติ มีเลือดออกในตา น้ำวุ้นตาขุ่นมัว จอประสาทตาลอก ทำให้ตาบอด ซึ่งโรคเบาหวานนี้เป็นสาเหตุทำให้ตาบอดมากเป็นอันดับ 2 รองจากตาต้อกระจก

 

          ในการป้องกันไม่ให้เบาหวานขึ้นตาขอให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน คือผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจเบาหวานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากยังไม่เป็นขอให้ป้องกันตัว โดยออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุม น้ำหนักตัว กินอาหารรสหวานจัดให้น้อยลง ในกลุ่มที่ตรวจพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดเริ่มสูงเกินปกติ แต่ยังไม่เป็นโรคขอให้รีบแก้ไขปรับพฤติกรรมตัวเองตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่จะช่วยได้ทัน แต่หากพบว่าเป็นเบาหวานแล้วให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และไปพบแพทย์นัดทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน

 

          นายแพทย์สาโรจน์ มะรุมดี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ป่วยเบาหวานบางรายชอบทดสอบความแรงของยา โดยเฉพาะยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยกินอาหารต้องห้าม เช่น อาหารรสหวาน อาหารไขมันสูง เช่น หนังไก่ทอด ขาหมู เมื่อกินอาหารกลุ่มนี้เข้าไปแล้ว ก็กินยาสมุนไพรที่อ้างสรรพคุณตาม เพื่อพิสูจน์ยาว่าจะได้ผลทำให้น้ำตาลดีขึ้นในวัน รุ่งขึ้นหรือไม่ หากไม่ดีก็จะไม่กินต่อ พฤติกรรมเหล่านี้เป็นผลเสียอย่างมากต่อการควบคุมเบาหวานของผู้ป่วย เพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น เพราะโรคนี้ไม่มียารักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการไม่ให้รุนแรงขึ้นได้เท่านั้นเอง

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

update 26-09-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code