แพทย์เตือนแม่คลอดก่อนกำหนดเด็กเสี่ยงป่วยโรคจอประสาทตา
แพทย์เตือนแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนดน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ และไม่ได้รับออกซิเจนหลังคลอดในตู้อบ มีสิทธิ์ป่วยเป็นโรคจอประสาทตาในเด็กคลอดก่อนกำหนดทำให้จอประสาทตาหลุดลอก และตาบอด
นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า โรคจอประสาทตาในเด็กคลอดก่อนกำหนดเป็นความผิดปกติของจอประสาทตาในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากจอประสาทตาของเด็กยังไม่เจริญเต็มที่ เมื่อคลอดออกมา ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบเส้นเลือดของจอประสาทตาเกิดเป็นเส้นเลือดงอกใหม่และมีเยื่อพังผืด มาดึงรั้งทำให้จอประสาทตาหลุดลอก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคคือการได้รับออกซิเจนหลังคลอด ซึ่งในเด็กคลอดก่อนกำหนดมักจะมีความผิดปกติของอวัยวะอื่นๆ ร่วมด้วยเช่น ระบบหายใจ เลือดออกในสมอง โรคลำไส้อักเสบเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการให้ออกซิเจนในตู้อบ เพื่อรักษาชีวิตให้รอด แต่จะเป็นปัจจัยเสริมทำให้โรคจอประสาทตาในเด็กคลอดก่อนกำหนดรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ ยิ่งน้ำหนักน้อยยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้มาก เช่น น้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่า 750 กรัมมีความเสี่ยงเป็นโรคประมาณร้อยละ 90 น้ำหนักแรกคลอดระหว่าง 750-1,000 กรัม มีความเสี่ยงเป็นโรคประมาณร้อยละ 80 และหากมีน้ำหนักแรกคลอดระหว่าง 1,000-1,250 กรัม จะมีความเสี่ยงเป็นโรคร้อยละ 50
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคตอนตรวจพบซึ่งแบ่งความรุนแรงเป็น 5 ระยะคือระยะ 1-2 สามารถหายได้โดยไม่ต้องให้การรักษา ระยะ3-4 ใช้แสงเลเซอร์รักษาเพื่อป้องกันการหลุดลอกของจอประสาทตา แต่อาจมีการเกิดภาวะ สายตาสั้น ตาเขหรือจอประสาทตาลอกในภายหลังได้ ระยะ 4-5 ไม่สามารถใช้แสงเลเซอร์รักษาได้ เพราะมีการหลุดลอกของจอประสาทตาแล้ว บางรายอาจทำการรักษาโดยการผ่าตัดจอประสาทตา แต่ไม่ได้ผล ไม่สามารถกลับมามองเห็นได้
ดังนั้น จึงฝากเตือนสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากหรือน้อยเกินไป ติดยาเสพติด สูบบุหรี่ มีภาวะเครียดทำงานหนัก และผู้ที่มีประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดที่ไม่ดี เช่น มีการแท้ง คลอดก่อนกำหนดในครั้งก่อนภาวะติดเชื้อทางระบบปัสสาวะเฉียบพลัน มีเลือดออกในขณะตั้งครรภ์ ความดันโลหิตสูง มีการติดเชื้อในช่องคลอดและปากมดลูก จึงควรป้องกันการคลอดก่อนกำหนด โดยการฝากครรภ์กับแพทย์ที่โรงพยาบาลเมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า