แพทย์เตือนลอกฝ้าด้วยฟีนอลเสี่ยงเสียชีวิต

เหตุภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ

          นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดโรคผิวหนัง กล่าวว่า การรักษาฝ้ามีหลายวิธีนอกจากการใช้ยาทาแล้วยังมีวิธีทางกายภาพอีก คือ การลอกหน้าด้วยสารเคมี เช่น กรดไตรคลอโรอะซิติก, กรดไกลคอลิก ที่จะช่วยลอกผิวหนังส่วนบนทำให้ฝ้าจางลงได้ แต่ต้องระวังการลอกหน้าในคนผิวสีน้ำตาลเข้มและผิวดำ ในผู้ที่เพิ่งผ่าตัดใบหน้า ในผู้ที่เกิดแผลเป็นคีลอยด์ง่าย รวมถึงการลอกหน้าชนิดลึกด้วยฟีนอล ต้องระวังเพระอาจเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติจนถึงเสียชีวิตได้

          ที่สำคัญ ผู้ที่กินยาคุมกำเนิดไม่ควรลอกหน้า เพราะผลข้างเคียงของยาคุมจะทำให้เป็นฝ้าอยู่แล้ว จะยิ่งทำให้รอยคล้ำหลังลอกเข้มมากกว่าปกติ รวมถึงต้องระวังการลอกหน้าในผู้ที่เคยเป็นเริมที่ใบหน้า เพราะเริมอาจกำเริบลุกลามไปทั่วใบหน้าในผู้ที่กินยากรดวิตามินเอและผู้ที่ฉายรังสีมาก่อน

          ข้อแทรกซ้อนจากการลอกตัวสารเคมี ได้แก่ ผิวเปลี่ยนสี, แผลเป็น, การติดเชื้อแบคทีเรีย, การกำเริบของเริมและผิวแดง การกรอผิวด้วยผงขัด เพื่อเร่งการขจัดเซลล์ชั้นหนังกำพร้าให้ลอกหลุดเร็วขึ้น เป็นวิธีที่ได้ผลสำหรับฝ้าและกระที่อยู่ในชั้นตื้นๆ ข้อควรระวังของเทคนิคนี้ คือ ห้ามทำในผู้ที่เป็นเริม, มะเร็งผิวหนัง และผิวหนังอักเสบ ข้อแทรกซ้อน คือ อาการตาแดง, ผงขัดติดแก้วตา, การใช้ความเย็นจัดรักษาฝ้า มีข้อควรระวัง คือ ห้ามทำใกล้เปลือกตา และห้ามทำในผู้ที่เป็นโรคแพ้ความเย็น เช่น ลมพิษจากความเย็นผู้ที่คิดจะลอกฟ้าจึงควรเลือกใช้วิธีตามความเหมาะสม.

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

update:25-09-51