แฉพ่อค้าหัวใส พับสลากพนันยัดขนมขายในรร.
เด็กแห่ซื้อ กลายเป็นทาสพนันไม่รู้ตัว
แฉผู้ประกอบการเห็นแก่ได้ ทำ “ขนมทองพับ” สอดไส้สลากรางวัล ขายตรงถึงในโรงเรียน มอมเมาเด็กและเยาวชน “เดลินิวส์” ตีแผ่ปัญหา แฉพ่อค้า – แม่ค้าหัวใส ไปติดต่อร้านค้า สหกรณ์ในโรงเรียน ขอวางขายขนมทองพับเป็นปี๊บคราวละ 10 – 20 ปี๊บ โดยไม่ต้องลงทุน ขายหมดให้กำไรปี๊บละ 60 บาท เด็กแห่ซื้อชิ้นละ 2 บาท คราวละ 5 – 10 ชิ้นหวังรางวัล ส่งผลให้กลายเป็นทาสพนันโดยไม่รู้ตัว
หลังจาก “เดลินิวส์” ตีแผ่ปัญหาสลากพนันซึ่งมอมเมาเด็กและเยาวชนให้กลายเป็น ทาสการพนันและอบายมุขโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากเด็กและเยาวชนที่ยังขาดวุฒิภาวะ อาจมองว่าเสียเงินเพียง 4 – 5 บาทเพื่อแลกสลาก หากโชคดีถูกรางวัลจะได้ทั้งเหล้า บุหรี่ ที่มีมูลค่ามากกว่าเป็นสิบเท่า หรือไม่ก็นำไปแลกเงินสดได้ ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนในอีกรูปแบบหนึ่ง
จากการนำเสนอถึงปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่กวาดล้างร้านค้าที่ให้บริการอย่างจริงจัง จนสลากพนันเริ่มลดน้อยลง แต่ล่าสุดกลับพบว่า ผู้ประกอบการได้หาทางหลีกเลี่ยง ด้วยการเสริมการพนันแฝงในขนม โดยขายตรงให้กลุ่มเด็กและเยาวชนถึงในโรงเรียน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับหนังสือร้องเรียนมายังกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ว่า ได้มีกลุ่มแม่ค้าหัวใสแอบลักลอบนำสลากพนันสอดไส้ในขนมทองพับมาหลอกขายมอมเมาเยาวชนตามโรงเรียนต่างๆ ทางภาคเหนือ จนทำให้เด็กนักเรียนติดกันงอมแงม
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวประจำศูนย์เดลินิวส์ภาคเหนือตอนล่าง จึงเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่าขณะนี้ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหัวใสได้นำสินค้าที่มีลักษณะคล้ายกับสลากพนัน แอบแฝงมาในรูปแบบขนมบรรจุปี๊บมาวางขายตามโรงเรียนในพื้นที่ ในจังหวัดสุโขทัย และจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวน มาก แต่กลับมีความรุนแรงกว่าสลากพนัน เพราะเด็กนักเรียนสามารถไปซื้อเสี่ยงโชคได้ง่ายกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหัวใสจะนำขนมทองพับ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับขนมทองม้วน แต่เป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งขนมทุกแผ่นจะมีสลากรางวัลห่อไว้ภายในขนมทุกชิ้น เช่น สติกเกอร์ทำเป็นรูปตัวการ์ตูนโดราเอม่อน อุลตร้าแมน หรือหมีพูห์ คิตตี้ สไปเดอร์แมน รูปการ์ตูนชื่อดังที่เด็กๆ รู้จัก รวมทั้งห่อเหรียญ 5 บาท และ 10 บาทบรรจุอยู่ภายในขนมด้วย
โดยจะห่อสติกเกอร์ลงไปในขนมทองพับขณะอบขนม ซึ่งอาจทำให้สารพิษในสติกเกอร์ละลายปนเปื้อนติดกับขนมได้ จากนั้นจะนำไปบรรจุปี๊บ ปี๊บละ 130 ชิ้น โดยกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจะนำขนม ดังกล่าวส่งขายเฉพาะในโรงเรียนอย่างเดียว มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับประถม โดยจะเน้นจำหน่ายในโรงเรียนที่อยู่นอกตัวเมือง ตามอำเภอรอบนอกเท่านั้น
“บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะนำขนมซึ่งมีสลากพนันสอดไส้ ส่งขายฝากให้กับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยตามโรงเรียนต่างๆ ที่ประมูลขายของภายในโรงเรียนได้โดยไม่ต้องลงทุนก่อน หรือบางโรงเรียนที่มีสหกรณ์ของโรงเรียนก็จะให้ครูเป็นคนขายเอง
หากโรงเรียนไหนมีจำนวนนักเรียนมากผู้ผลิตก็จะนำขนมไปส่งขายฝากให้ครั้งละ 10 – 20 ปี๊บโดยส่งในราคาปี๊บละ 200 บาท คนขายจะได้กำไรปี๊บละ 60 บาท โดยไม่ต้องลงทุน เมื่อขายไม่หมดก็สามารถส่งคืนได้ ส่วนรางวัลจะห่อพับไว้ข้างในขนมทองพับกระจายอยู่ทั่วปี๊บ หากถูกรางวัลสามารถรับกับคนขายได้เลย เช่น ตุ๊กตา สร้อยคอ นาฬิกา
ทั้งนี้ ขนม 1 ปี๊บบรรจุขนมทองพับได้ 130 แผ่น จำหน่ายในราคาแผ่นละ 2 บาท ดังนั้นคนขายจะได้ 260 บาทต่อปี๊บ แต่จะส่งต้นทุนให้ผู้ผลิต 200 บาทต่อปี๊บ และได้กำไรปี๊บละ 60 บาท พอขายได้ 1 สัปดาห์ก็จะสับเปลี่ยนรางวัลจนกว่าเด็กจะเริ่มเบื่อ จากนั้นทางพ่อค้าแม่ค้าหัวใสก็จะย้ายไปขายตามโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงเด็กต่อไป” ผู้สื่อข่าวรายงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สลากพนันรูปแบบใหม่ที่แอบแฝงมาในรูปสอดไส้ในขนมทองพับนี้ จะเป็นการส่งเสริมให้เด็กติดการพนันโดยมีสิ่งของที่เป็นรางวัลต่างๆ มาล่อใจแทน เด็กบางคนจะไม่บริโภคขนม แต่จะซื้อครั้งละ 5 – 10 ชิ้น เพื่อลุ้นรางวัล หากไม่ได้จะโยนขนมทิ้งทันที โดยพบว่าในนักเรียนบางคนเมื่อไม่ได้รางวัลถึงกับร้องไห้และขอเงินผู้ปกครองมาซื้อขนมดังกล่าวต่อเพื่อให้ได้รางวัล
นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังให้เด็กหัดโกง คือเด็กจะหยิบขนมทองพับที่บรรจุอยู่ในปี๊บมาส่องดู ถ้าไม่มีรางวัลใหญ่จะสลับเปลี่ยนแผ่นใหม่ ซึ่งผู้ผลิตจะเจาะตลาดขายเฉพาะในโรงเรียนอย่างเดียว เพราะพ่อแม่ให้เงินลูกไปโรงเรียนทุกวัน จึงนับว่าเป็นการมอมเมาเยาวชนให้ติดการพนันอย่างรุนแรง
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
update 22-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก