“เอแบค โพล” แฉยาบ้ากลับมาระบาด เข้าถึงเด็กและเยาวชนง่าย

อึ้ง! หลังพบเด็กสาวอัพยาปลุกเซ็กซ์ก่อนขายบริการ

 

            เมื่อวันที่ 15 พ.ค. จากการประชุมสัมมนาโครงการพัฒนาระบบและเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ประจำปี 2551 ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคมการจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า สำนักวิจัยเอแบคโพล ได้สำรวจเก็บข้อมูลเรื่อง สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทย ในกลุ่มประชากรระดับครัวเรือนทั่วประเทศ จำนวน 40,000 คน ช่วงปี 2550-ต้นปี 2551 พบว่า ยาบ้าเข้าถึงเด็กและเยาวชนทั่วประเทศได้ง่ายที่สุด

 

            เมื่อสำรวจเชิงลึกระดับภาค พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการระบาดของกลุ่มสารระเหย ภาคใต้ ระบาดสารเสพติดประเภท 4x100 และกระท่อม ภาคเหนือยังมีการระบาดของฝิ่น ส่วนภาคกลางนิยมเสพกระท่อม และเฮโรอีน

 

            ดร. นพดลกล่าวต่อไปว่า สำหรับกรุงเทพมหานคร พบว่า มีการระบาดของยาไอซ์ ยาเลิฟ และยาอี ในกลุ่มผู้ใช้บริการสถานบันเทิง เด็กที่มีฐานะและกลุ่มคนบันเทิง ส่วนชุมชนแออัดจะเป็นสารระเหย ขณะที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษา นิยมเสพกัญชา ที่น่าตกใจที่สุดคือ เยาวชนที่ขายบริการทางเพศ นิยมเสพประเภทยากล่อมประสาท โดยเฉพาะยาไอซ์ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศในการขายบริการให้กับกลุ่มชายแก่ที่สภาพร่างกายไม่ก่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศ

 

            อีกทั้งยังช่วยปกปิดความเครียดของการขายบริการ เมื่อได้สอบถามถึงการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนของรัฐบาลชุดนี้พบว่า ตลอดการทำงานของรัฐไม่มีการแก้ปัญหาสังคม กลับไปมุ่งเน้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลสอบตกในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน เมื่อใดที่การเมืองอ่อนแอปัญหาสังคมจะกลับคืนมาอย่างน่าเป็นห่วง เจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรแสดงตัวเป็นฮีโร่ หรือซุปเปอร์แมน ปราบปรามยาเสพติดอย่างเดียว แต่จะต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมเฝ้าระวังด้วย

 

            พ.ต.ท.ดร.อภิรัฐ พุ่มกุมาร รองผู้กำกับการปฏิบัติราชการ ศูนย์ประสานงานประชาชนและอาสาสมัครช่วยงานตำรวจ (ศปช.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบว่าเด็กและเยาวชนนิยมส่งเหล้าปั่นที่ผสมยาเสพติด เพื่อต้องการเงินมาซื้อสินค้าแบรนด์เนม รวมทั้งอายุของเด็กที่ถูกชักจูงให้เข้ามากระทำผิดก็ลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาครัฐควรต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน.

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

 

 

update 16-05-51