เอดส์-มะเร็งพุ่ง แนะเกย์ ‘ตรวจสุขภาพ’
เตือนอย่าอาย ปรึกษาหมอก่อนโรคลุกลาม
แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะเริ่มเคยชินกับการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์ แต่สำหรับคนกลุ่มหนึ่งการไปตรวจเลือดยังเป็นเรื่องที่น่าเขินอาย โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชายที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัว ขณะที่รายงานสถานการณ์โรคเอดส์ระบุว่าในปี 2552 จะมีผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ 1.1 หมื่นคน เฉลี่ยวันละ 32 คน โดย 1 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มชายรักชาย
คลินิกนิรนามที่ตั้งอยู่ในรั้วสภากาชาดไทย เจ้าตำรับการตรวจเลือดโดยไม่ต้องบอกชื่อ เริ่มตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว เพราะกลุ่มชายรักชายนั้นนอกจากจะไม่อยากเปิดเผยชื่อแล้ว ยังไม่อยากให้มีผู้หญิงหรือผู้ชายทั่วไปมานั่งจ้องหน้าพวกเขาระหว่างนั่งรอคิว หรือนั่งรอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่พยาบาลด้วย พวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่านั้น
ศ.นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เล่าว่า หลังจากคลินิกนิรนามเปิดมาได้ 18 ปี ในแต่ละปีจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 1 หมื่นคน แบ่งเป็น 3 กลุ่มเท่าๆ กัน คือ ผู้หญิง ผู้ชาย และกลุ่มเกย์หรือชายรักชาย กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ กลุ่มหลัง เนื่องจากมีตัวเลขยืนยันว่าเป็นกลุ่มที่ยอดการติดเชื้อเอดส์เพิ่มสูงทุกปี เมื่อ 7 ปีที่แล้วตรวจพบร้อยละ 18 ถัดมาอีก 5 ปีตัวเลขเพิ่มเป็นร้อยละ 26 และเมื่อปี 2550 ตัวเลขพุ่งขึ้นไปเป็นร้อยละ 32
“ตัวเลขผู้ติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มชายรักชายเพิ่มสูงขึ้นมากในเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ที่คลนิกนิรนามก็เห็นได้ชัดว่าถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปเข้ามาตรวจจะพบเชื้อเอดส์ร้อยละ 17 ผู้ชายทั่วไปพบร้อยละ 10 แต่ถ้าเป็นกลุ่มชายรักชาย 100 คนจะพบว่าติดเชื้อเอดส์ 30 คน ยิ่งไปกว่านั้นความนิยมในการร่วมเพศทางประตูหลังหรือทวารหนัก ทำให้มีการตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งปากทวารหนักในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นด้วย คลินิกนิรนามเริ่มตระหนักว่าจะดูแลกลุ่มนี้อย่างไร จากการสำรวจความคิดเห็นคนกลุ่มนี้มักจะเขินอายไม่ค่อยกล้าไปตรวจที่สถานพยาบาลอื่นๆ จึงทดลองเปิดคลินิกสุขภาพชาย โดยมีจุดประสงค์ให้พวกเขารู้สึกเดินเข้ามาแล้วเป็นส่วนตัว ไม่ต้องถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ” ศ.นพ.ประพันธ์กล่าว
เมื่อเอ่ยถึง “โรคมะเร็งปากมดลูก” คนในสังคมไทยส่วนใหญ่จะเคยได้ยินและรู้ว่าเป็นโรคที่เกิดกับผู้หญิง แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าเชื้อไวรัสเอชพีวี (human papilloma virus) ที่เป็นบ่อเกิดของโรคนี้มีอยู่ 30 ชนิด และเชื้อนี้ทำให้ผู้ชายเป็นมะเร็งได้เช่นกัน หรือที่เรียกว่า “มะเร็งปากทวารหนัก” ในอเมริกามีการตรวจพบปีละเกือบ 2,000 ราย โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชายที่นิยมร่วมรักกันผ่านทางประตูหลัง
ศ.นพ.ประพันธ์อธิบายเพิ่มว่า มีการพบผู้ชายเป็นโรคมะเร็งปากทวารหนักนานแล้ว แต่มีจำนวนน้อยมากจนกระทั่งจำนวนเริ่มเพิ่มขึ้น โดยพบว่ากลุ่มชายรักชายจะเป็นมากกว่าผู้ชายทั่วไปถึง 40 เท่า ยิ่งมีเชื้อเอดส์ด้วยแล้วจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากทวารหนักเพิ่มสูงถึง 80 เท่า แม้เป็นเชื้อเอชพีวีตัวเดียวกับมะเร็งปากมดลูก แต่การรักษาและผ่าตัดทุกข์ทรมานกว่าหลายขุม เพราะเป็นส่วนที่ต้องใช้ปล่อยของเสียออกจากร่างกายทุกวัน
“จุดประสงค์ในการเปิดคลินิกนิรนามเวอร์ชั่นผู้ชายมี 2 ข้อหลัก คือ ชักชวนให้ผู้ชายดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น มีบริการตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจกามโรค ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี และอาจเชิญชวนให้ตรวจหาการติดเชื้อเอดส์ฟรีด้วย ส่วนอีกข้อคืออยากให้กลุ่มชายรักชายมาตรวจคัดกรองหามะเร็งปากทวารหนัก โรคนี้ถ้าพบตั้งแต่แรกเริ่มสามารถรักษาให้หายขาดได้เลย ไม่กลายเป็นมะเร็งร้าย ค่าตรวจก็แค่ 200 บาทเท่านั้น คนที่มีอาการถ่ายอุจจาระแล้วเจ็บ มีเลือดออก หรือน้ำเหลืองไหลออกจากก้น ก็ควรมาตรวจ อย่าคิดว่าเป็นแค่ริดสีดวงทวาร เพราะอาการจะคล้ายๆ กัน” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าว
“สาระ” เป็นหนึ่งผู้มาใช้บริการคลินิกสุขภาพชายแล้วรู้สึกประทับใจ ที่ผ่านมาเวลาไปตรวจร่างกายจะไม่อยากเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ และไม่อยากปะปนอยู่กับกลุ่มคนไข้ผู้หญิง ถ้าไปตรวจเอดส์ในโรงพยาบาลก็กลัวจะเจอคนรู้จัก เขาเคยมาใช้บริการที่นี่แล้วหลายครั้ง เมื่อได้ความรู้ที่ถูกต้องก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเวลาไปมีเพศสัมพันธ์กั บคู่รักก็รู้วิธีป้องกันและรักษาตัวเอง หากเป็นไปได้อยากให้มีเจ้าหน้าที่เข้าใจภาษาของพวกเขาและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
“น้องเล็ก” หรือ ชาญวิทย์ ปาคำ เจ้าหน้าที่ประจำคลินิกชายเล่าว่า การดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ต้องมีความสามารถเฉพาะด้านเรื่องภาษาเพราะวัยรุ่นชายที่มาใช้บริการหลายคนจะรู้จักเฉพาะคำที่กลุ่มเกย์ใช้พูดสื่อสารกัน ไม่รู้ว่าภาษาที่เป็นทางการคืออะไร เมื่อเขาเล่าให้ฟังเจ้าหน้าที่ควรรู้ได้ในทันทีว่าเป็นการกระทำแบบไหน
เจ้าหน้าที่จากคลินิกชายเตือนว่า กลุ่มที่พบอาการของมะเร็งปากทวารหนักมากที่สุดคือ “กลุ่มรับ” หรือกลุ่มชายรักชายที่ถูกร่วมเพศทางทวารหนัก นอกจากนี้ยังพบอาการแปลกๆ เช่น เป็นหนองในที่ลำคอ หรือเป็นหูดที่ลำคอด้วย ส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นคออักเสบทั่วไป ไม่รู้ว่าเป็นหนองในที่คอ หรือติดเชื้อกามโรคในลำคอ จึงอยากขอให้หนุ่มๆ ในกลุ่มนี้อย่าเขินอาย มารับการตรวจสุขภาพทุกปี และถ้าป่วยก็ให้มาปรึกษาก่อนไปซื้อยามากินโดยไม่รู้ว่าติดเชื้ออะไรกันแน่
กลุ่มชายรักชายเป็นมะเร็งปากทวารหนักมากกว่าผู้ชายทั่วไปถึง 40 เท่า และถ้ามีเชื้อเอดส์จะเพิ่มสูงถึง 80 เท่า
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update 22-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก