เหล้าสาเหตุตายหลักช่วงสงกรานต์
ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เผยอุบัติเหตุสงกรานต์ปี 54 สาเหตุหลักจากเมาสุรา เหยื่อบาดเจ็บ-ตายส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มคนขับขี่จักรยานยนต์
คุณหมอธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เผยว่า การดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุสงกรานต์ที่ผ่านมา ของหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ เน้นบังคับใช้กฎหมายใน 3 พฤติกรรมเสี่ยงหลักได้แก่ ดื่มแล้วขับ ขับเร็วและสวมหมวกนิรภัย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การกวดขันขายสุราที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมไปถึงกำหนดพื้นที่ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับจังหวัด 60 พื้นที่ ใน 44 จังหวัด และถนนข้าวต่าง ๆ อาทิ ถนนข้าวสาร ถนนข้าวเหนียว 16 แห่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 271 รายลดลงจากปีที่แล้ว ร้อยละ 25 ขณะที่ จำนวนอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บรุนแรงที่เข้ารับการรักษา ลดลงเช่นกัน
คุณหมอธนะพงศ์ บอกว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงานร้อยละ 54 อายุระหว่าง 20-49 ปี ขณะที่กลุ่มอายุน้อยกว่า 20 ปี พบสูงถึงร้อยละ 28 สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ยังคงเป็น เมาสุรา รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด ขับขี่จักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย โดยผู้ขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ เป็นกลุ่มหลักที่เสียชีวิต รองลงมาคือรถปิกอัพ ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตที่ขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยังคงไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 92.2 เช่นเดียวกับสงกรานต์ที่ผ่านมาที่พบผู้เสียชีวิตที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 91
แม้ในภาพรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลง แต่หากดูเป็นรายจังหวัดแล้วจะพบว่าบางจังหวัดกลับมีจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป โดยเฉพาะการตรวจเมาแล้วขับ ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงหลัก แม้จะตรวจได้ถึง 12,855 ราย แต่เมื่อคิดเฉลี่ยการดำเนินคดี ยังคงจับกุมได้เพียง จังหวัดละ 24.5 คนต่อวัน เท่านั้น
นอกจากนี้ควรศึกษาและกำหนดมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางและเล่นน้ำสงกรานต์ โดยใช้รถปิกอัพ เช่น ห้ามดื่มบนท้ายรถ การบรรทุกผู้โดยสารและสิ่งของเกินกำหนด รวมทั้งควบคุมความเร็ว และเพิ่มการรณรงค์เรื่องความอ่อนล้าในการเดินทาง และง่วงแล้วขับ ในช่วงเทศกาลให้มากขึ้นโดยเฉพาะเดินทางไปและกลับภูมิลำเนา.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์