เหยื่อเมาแล้วขับย้ำสวมหมวกกันน็อค
เผยแม้แต่เด็กยังใส่ใจ
เหยื่อเมาแล้วขับ ฝากเตือนสิงห์มอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งขณะขับขี่ ชี้แม้แต่เด็กยังตระหนักถึงความปลอดภัย ด้าน ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผยเตรียมหารือคณะกรรมการภาคีเพิ่มโทษผู้ฝ่าฝืน
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิเมาไม่ขับ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า เปิดโครงการรณรงค์ปลุกกระแสสังคมไทยใส่ใจสวมหมวกกันน็อค “รักวัวให้ผูก รักลูกให้สวมหมวกกันน็อค” ตามนโยบายด้านการจราจรและความปลอดภัยทางถนน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) กล่าวถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎจราจรว่า ในเรื่องการไม่สวมหมวกกันน็อคในขณะขับขี่ มีหลายคนเห็นว่าบทลงโทษอาจจะน้อยไป ในส่วนนี้จากที่ได้เคยหารือร่วมกับภาคีเครือข่าย สสส.ซึ่งได้ยกตัวอย่างบทลงโทษของประเทศเวียดนาม ว่าเมื่อพบเห็นผู้กระทำผิดกรณีนี้ก็จะยึดรถไว้ ดังนั้นทางภาคีเครือข่ายเองเห็นว่าในประเทศไทยเองควรจะมีการเพิ่มโทษ แต่ในรายละเอียดนั้นอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับคณะกรรมการภาคีเครือข่ายว่าจะเพิ่มโทษเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น
นายคริส เบญจกุล เหยื่อเมาแล้วขับ กล่าวว่า อยากฝากให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคนควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ที่ผ่านมาเห็นหลายคนมักจะละเลยการป้องกันในส่วนนี้ อาจจะเพราะเห็นว่าไม่เท่ ทำให้ผมเสียทรง เป็นต้น แต่อย่างบุตรสาวของตน ซึ่งอายุเพียง 4 ขวบ ยังให้ความสำคัญกับการสวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์ เห็นได้ว่าแม้แต่เด็กก็ยังตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ควรมีความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายให้มาก ไม่ควรปล่อยปละละเลยเมื่อพบเห็นผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อคระหว่างขับขี่ นอกจากนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรมีการควบคุมการผลิตหมวกกันน็อคให้ได้ตามมาตรฐานความปลอดภัย และสมราคา โดยเฉพาะหมวกกันน็อคของเด็ก เพราะสิ่งเหล่านี้คือความปลอดภัยของชีวิต
ด้าน ด.ช.ณัฐสุต ถนอมทรัพย์โพคา อายุ 9 ขวบ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม กล่าวว่า ปกติจะใช้บริการของรถจักรยานยนต์รับจ้างมาโรงเรียน โดยไม่มีหมวกกันน็อค และไม่ทราบว่าจำเป็นต้องสวม จนได้มางานในวันนี้ถึงได้รู้ว่ามีความจำเป็น และต่อไปจะต้องเลือกสวมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ด.ช.ขวัญชัย จูธานี อายุ 14 ปี โรงเรียนวัดปทุมวนาราม กล่าวว่า ทุกเช้าเวลาไปโรงเรียนจะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คุณแม่มา แต่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง เพราะลืมบ้างและไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย ส่วนผู้ปกครองเองก็ไม่ได้ย้ำให้ต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ทั้งๆ ที่พ่อของตนเคยเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วก็ตาม แต่หลังจากมางานในครั้งนี้ คิดว่าต่อไปจำเป็นต้องใส่ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
ที่มา : สุนันทา สุขสุมิตร Team content www.thaihealth.or.th
Update : 30-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร