เลกกิ้งดำ-ยั่ว “ยุง” ภัยไข้เลือดออก

ผ้ายืดแนบเนื้อ ทำให้ยุงเจาะกัดได้ง่าย 

 

          ยั่วยุงลาย – แฟชั่น”เลกกิ้ง”ซึ่งวัยรุ่นไทยรับมาจากเกาหลี ล่าสุดกระทรวงสาธารณ สุขเตือนว่าเลกกิ้งสีดำ เป็นตัวดึงดูดยุงลายให้มากัด ทำให้ผู้สวมใส่มีโอกาสเป็นไข้เลือดออกมากกว่าคนที่สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ตามข่าว

 

          สธ.เตือนวัยรุ่นฮิตแฟชั่นกางเกง”เลกกิ้งดำ” เพิ่มความเสี่ยงป่วยเป็นไข้เลือดออก เพราะเป็นสียั่วยวน”ยุงลาย” พาหะของโรคอีกทั้งกางเกงยังมีลักษณะเป็นผ้ายืดแนบเนื้อ ทำให้ยุงเจาะกัดได้ง่าย แนะทางที่ดีให้เลือกใส่เสื้อผ้าโทนสีอ่อน หลีกเลี่ยงโทนสีดำหรือสีทึบ และควรเลือกใส่ผ้าเนื้อหนาๆ ช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย. เพราะเป็นช่วงไข้เลือดออกระบาด เผยสถิติตั้งแต่ต้นปีมีผู้ป่วยแล้วกว่า 4.5 หมื่นราย เสียชีวิต 43 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กโตถึงวัยรุ่นมากกว่าร้อยละ 50

 

          เตือนสวม “เลกกิ้งดำ” เพิ่มความเสี่ยงไข้เลือดออก ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้น่าห่วงมาก จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 40 ตั้งแต่เดือนม.ค.-30 ก.ค. 2553 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 45,379 ราย เสียชีวิต 43 ราย โดยพบผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ มากที่สุดคือกลุ่มเด็กโตถึงวัยรุ่นอายุ 10-24 ปี พบร้อยละ 52 ซึ่งต่างจากช่วง 3-4 ปีก่อนที่พบในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 9 ขวบมากกว่า โดยมีรายงานพบเด็กแรกเกิดอายุต่ำกว่า 28 วัน ป่วยจำนวน 7 ราย ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปป่วย 322 ราย

 

          นางพรรณสิริ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณ สุขได้เร่งให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัด รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยเฉพาะในบ้าน เนื่องจากผลวิเคราะห์จากผู้ป่วยพบว่ากว่าร้อยละ 80 ถูกยุงลายในบ้านกัด โดยพบว่ามีเรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือการแต่งตัวของประชาชนมีส่วนทำให้ถูกยุงกัดได้ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นทั้งเขตเมืองและชนบท ที่ขณะนี้กำลังนิยมแฟชั่นเลกกิ้ง หรือกางเกงใส่แนบขากันโป๊ เป็นกระแสแฟชั่นฮิตมาจากประเทศเกาหลี มีลักษณะเป็นผ้ายืดมีทั้งขายาว ขาสั้น ขาสี่ส่วน มีหลากสี แต่ที่นิยมมากที่สุดคือสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ยุงลายชอบ และยุงชนิดนี้จะออกหากินช่วงกลางวันอยู่แล้ว ทำให้ผู้สวมใส่มีความเสี่ยงถูกยุงลาย ซึ่งมีปากแหลมกัดเจาะผ่านรูผ้ายืดเข้าไปดูดเลือดได้โดยง่าย หากยุงที่กัดมีเชื้อไข้เลือดออกก็จะทำให้ติดเชื้อและป่วยได้

 

          “ขอแนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงใส่เสื้อผ้าโทนสีทึบ โทนดำ เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยวนยุงลาย ควรเลือกใช้เสื้อผ้าสีอ่อนๆ สวมใส่กางเกงที่ป้องกันไม่ให้ยุงลายกัดได้ เช่น กางเกงยีนส์หรือกางเกงผ้าหนาๆ ซึ่งในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.ทุกปี เป็นช่วงระบาดของไข้เลือดออกจะพบผู้ป่วยช่วงนี้มากที่สุด” รมช.สาธารณสุข กล่าว

 

          นางพรรณสิริ กล่าวว่า แหล่งน้ำในบ้านที่มักมียุงลายวางไข่ ได้แก่ ถังน้ำ โอ่งน้ำ พบได้ร้อยละ 40 รองลงมาคือน้ำหล่อขาตู้กับข้าว แจกัน วิธีการลดปริมาณยุงลายที่ดีที่สุดคือการทำลายลูกน้ำทุก 5-7 วัน เพื่อไม่ให้มีโอกาสโตเป็นยุงเต็มวัย หากบ้านเรือนทั้ง 22 ล้านครัวเรือนช่วยกัน มั่นใจว่าปริมาณยุงลายตัวเต็มวัยจะลดลง เพราะยุง 1 ตัว จะมีอายุประมาณ 30-45 วัน ส่วนเรื่องการรักษาได้เน้นย้ำให้แพทย์พยาบาลทุกคนปฏิบัติตามมาตรฐาน หากพบผู้ป่วยทุกอายุที่มีไข้สูงขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออก และดูแลใกล้ชิดเพื่อลดการเสียชีวิตของผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

 

          ด้านน.พ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า มอบหมายให้กองสุขศึกษาดำเนินการสำรวจพฤติกรรมป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชน โดยผลสำรวจล่าสุดเมื่อเดือนมิ.ย.2553 ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,601 คน ใน 18 จังหวัดที่เคยมีการ  ระบาดของโรค ได้แก่ สระบุรี สิงห์บุรี ปราจีนบุรี กาญจนบุรี สมุทรสงคราม พัทลุง กระบี่ ปัตตานี จันทบุรี อุดรธานี สกลนคร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ชัยภูมิ ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ และกรุงเทพฯ พบว่าประชาชนร้อยละ 35 ไม่สนใจล้างทำความสะอาดภาชนะเก็บน้ำในห้องน้ำ ซึ่งตามหลักต้องทำทุกสัปดาห์ มีเพียงร้อยละ 63 เท่านั้นที่ทำเป็นประจำ และอีกร้อยละ 31 ไม่เคยตรวจและทำลายลูกน้ำในภาชนะเก็บน้ำในบ้าน เช่น น้ำหล่อขาตู้กับข้าว แจกัน ที่เก็บน้ำอื่นๆ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ไม่ควรละเว้น เนื่องจากยุงลายตัวเมียสามารถวางไข่ได้คราวละ 300-400 ฟอง เมื่อเป็นลูกน้ำจะสามารถกลายเป็นตัวยุงมีปีกบินได้ภายใน 5-7 วัน เพิ่มความเสี่ยงในการถูกยุงลายกัดมากขึ้น

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

 

update:09-08-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่