เร่งรัฐยกเลิก 11 กิจการกระทบมาบตาพุด
เครือข่ายฯ นัดชุมนุมใหญ่ 21 ก.ย.
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยว่า วันที่ 20 กันยายน เครือข่ายชุมชนทั่วประเทศจะหารือถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเภทกิจการที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างร้ายแรงที่มีผลต่อโครงการลงทุนทั่วประเทศว่า ควรจะปรับแก้อย่างไรบ้าง เพื่อนำกลับมาเสนอรัฐบาลในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นจะเสนอให้รัฐบาลยกเลิก 11 กิจการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรง ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดประเภทกิจการใหม่ โดยยึดหลัก 18 ประเภทกิจการรุนแรงของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย
นายสุทธิ กล่าวว่า ภาคประชาชนต้องการให้รัฐบาลกำหนดประเภทกิจการอาจรุนแรงจาก 2 หลักการคือ 1.พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ 2.ให้สิทธิชุมชนในการร่วมพิจารณา และควรมีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติร่วมรับฟังความเห็นด้วย
“เราให้เวลารัฐตอบคำถามถึง 21 กันยายนว่าจะยกเลิกประกาศ 11 ประเภทกิจการที่อาจรุนแรงหรือไม่ ถ้ารัฐบาลยังยืนยันก็จะนัดชุมนุมใหญ่ โดยเห็นว่า 18 กิจการที่ยกเลิกมาเหลือ 11 กิจการนั้น ไม่ได้มีเหตุผลรองรับเพียงพอ และที่ผ่านมาบอร์ดสิ่งแวดล้อมไม่เคยถามภาคประชาชนเลย เหมือนเป็นการหักหลังกัน” นายสุทธิ กล่าว
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการ 3 ราย คือ 1.โครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ของ ปตท. 2.โครงการท่อส่งก๊าซฯ ไปยังบริษัท ยูทิลิตี้ จำกัด ของบริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) 3.โครงการศูนย์สาธารณูปการกลาง แห่งที่ 2 ของบริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด ขณะที่การนิคมอุตสาหกรรมได้ส่งหนังสือไปให้ผู้ประกอบการ 50 โครงการ ที่ไม่เข้าข่ายกิจการรุนแรง สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยจำนวนนี้มีโครงการที่ยังรอการพิจารณาออกใบอนุญาตขอใช้พื้นที่ค้างอยู่ 18 โครงการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
update : 21-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร