เรื่องเล่าคนหัวใจเพชร “อยากให้เลิกเหล้า”
ที่มา : มติชน
ภาพโดย สสส.
ปีนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และ วัดยานนาวา ชวนคนไทยงดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้แคมเปญ "ตับจะกลับมาดี พรรษานี้ เริ่มงดเหล้า"
โดย นพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส.และ สคล. ริเริ่มโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาตั้งแต่ปี 2546 และทำต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 16 โดยการดำเนินงานที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีประชาชนเข้าร่วมงดเหล้าเข้าพรรษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจากการประเมินโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2561 โดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) พบว่าร้อยละ 30.4 สามารถงดได้ตลอดเทศกาลเข้าพรรษา และจะงดต่อไปจนออกพรรษา หรือประมาณ 6.9 ล้านคน
นพ.สุปรีดา กล่าวว่า จากผลการสำรวจค่าใช้จ่ายในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า มีค่าใช้จ่ายในการดื่มโดยเฉลี่ยต่อครั้งอยู่ที่ 325 บาท หากผู้ดื่มสามารถงดเหล้าได้ตลอด 3 เดือน จะประหยัดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนเฉลี่ยรายละ 1,820 บาท โดยประมาณการจำนวนเงินรวมที่ประเทศจะประหยัดได้มีมูลค่าถึง 10,724 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการประเมินผลจากการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาต่อการลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากทุกสาเหตุและการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ พบว่า ในเดือนที่มีการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากทุกสาเหตุลงร้อยละ 9 และการเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์ลดลง ร้อยละ 25 อีกทั้งยังส่งผลให้การดื่มลดลง ร้อยละ 10 อีกด้วย
นอกจากนี้ นพ.สุปรีดา กล่าวถึงสถานการณ์การดื่มของคนไทย พบว่า ภาพรวมช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแนวโน้มการดื่มของคนไทยลดลง สอดคล้องกับข้อมูลค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในปี 2560 ลดลงเหลือ 142,230 ล้านบาท จาก 151,607 ล้านบาท ในปี 2548
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการ สคล. กล่าวว่า ผลดำเนินการปี 2561 ทำให้เกิดเครือข่าย "นายอำเภอนักรณรงค์ ชวนงดเหล้า" จำนวน 157 คน ครอบคลุม 69 จังหวัด ส่งผลทำให้การชักชวนคนในชุมชนงดเหล้าอย่างทั่วถึง เกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งมีการจัดงานศพและงานประเพณีปลอดเหล้า 430 แห่ง มีชุมชนร่วมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา 1,546 แห่ง มีคนลงนามบวชใจงดเหล้าเข้าพรรษา 24,376 คน และมีการมอบประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติคนงดเหล้าครบพรรษาถึง 19,501 คน จนกลายเป็นคนหัวใจหินที่เลิกดื่มต่อเนื่อง 3 ปีขึ้นไป 3,222 คน จนกลายเป็นคนหัวใจเพชร พร้อมต่อยอดโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2562 ภายใต้แนวคิด "คนหัวใจเพชร สร้างคนหัวใจหิน" ให้เป็นบุคคลต้นแบบ เป็นเพื่อนช่วยเพื่อน คอยให้กำลังใจผู้ที่ตั้งใจเลิกเหล้า
ตัวอย่างคนหัวใจเพชรที่ชนะใจตนเอง เลิกเหล้าได้ เช่น "ป้าตุ๊" นางสุรินทร์ แก้วคำ อายุ 48 ปี ชาว ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี อาชีพเกษตรกรรมและธุรกิจส่วนตัว ได้เล่าประสบการณ์ว่า เมื่อปี 2529 ตนและสามีเริ่มดื่มเหล้า เพราะงานบุญประเพณีภายในหมู่บ้าน ทำให้จำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม และเพื่อนชักชวนดื่ม ก่อนทั้งคู่เริ่มดื่มเป็นประจำทุกคืน เมื่อตนและสามีดื่มเหล้ามักมีปัญหาทะเลาะกันเสมอ ขณะนั้นมีลูกอายุ 5 ขวบ ลูกก็ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ ต้องนำไปให้ญาติเลี้ยง เพราะไม่มีเวลาเลี้ยงลูก และพ่อแม่มักมีปากเสียงกันตลอด อีกทั้ง ทั้งคู่ไม่สามารถตื่นเช้าไปส่งลูกเรียนหนังสือได้ ต่อมาเราเริ่มดื่มหนักขึ้น และทะเลาะกันมากขึ้น จนวันหนึ่งความเมาเป็นเหตุให้ขาดสติ เกิดประสบอุบัติเหตุตกบันได ทำให้สภาพร่างกายแย่ลง ส่วนสามีก็เคยประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม เหตุเมาแล้วขับ กระทั่งมีคนในครอบครัวมาเตือนสติเรื่องลูก ซึ่งการดื่มเหล้าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปัญหาครอบครัว ต่อมาในปี 2537 ตนได้เลิกเหล้าเด็ดขาด และไม่เคยแตะเหล้าอีกแม้แต่หยดเดียว
ป้าตุ๊ เล่าว่า ภายหลังเลิกเหล้าสุขภาพดีขึ้น หันมาตั้งใจทำงานเพื่อลูกและครอบครัว จากนั้นก็เข้าร่วมโครงการ สสส. กลายเป็นคนหัวใจเพชร เพราะเลิกดื่มต่อเนื่องมากว่า 8 ปี พร้อมยังได้เชิญคนดื่มเหล้าภายในชุมชน มางดเหล้าเข้าพรรษา ร่วมเป็นคนหัวใจหิน จนเกิดการรวมตัวกันตั้งเป็นชมรม และเครือข่าย พร้อมร่วมกันจัดโครงการเด็กและเยาวชน เขียนเรียงความชวนพ่อแม่เลิกเหล้าเข้าพรรษา จนเป็นผลทำให้พ่อแม่หลายคนเลิกเหล้าสำเร็จ พร้อมจัดหาทุนสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชนให้ดำเนินโครงการต่อเนื่องมากว่า 4 ปีแล้ว
ป้าตุ๊ ขอฝากถึงคนดื่มเหล้าว่า "ดื่มเหล้าไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะปัญหาครอบครัว ครอบครัวไม่เคยอบอุ่น เหล้าทำให้ทะเลาะกันตลอด อย่างอดีตบ้านเรา ลูกนอนกับเราไม่ได้ ต้องไปนอนกับคนอื่น สุดท้ายลูกขาดความอบอุ่น แต่เมื่อเลิกแล้ว เรานอนกอดลูกได้ ครอบครัวก็กลับมาอบอุ่น ฝากถึงคนที่อยากเลิกดื่มเหล้า ขอให้ตั้งใจมุ่งมั่น นึกถึงครอบครัว ส่วนคนที่เลิกดื่มไม่ได้ ขอให้ดื่มพอเหมาะ ดื่มอย่างพอดี และดื่มในสถานที่เหมาะสม ให้เคารพต่อสถานที่ ไม่ใช่จะดื่มที่ไหนก็ได้"
ส่วน "ลุงเบิ้ม" นายใบ พู่พันชิด อายุ 71 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เริ่มดื่มเหล้ามาตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะต้มเหล้าเถื่อนขาย ทั้งซื้อเองและเลี้ยงเพื่อน พอดื่มเหล้าจะมีเพื่อนเยอะ เพราะมีเงินซื้อเหล้าเลี้ยงเพื่อน ตนมีอาชีพทำสวนมะพร้าวด้วย เมื่อได้เงินจากการทำสวน ก็ซื้อเหล้ากินหมด จนมีหนี้สินกว่า 300,000 บาท ภายหลังเกิดความคิดอยากเลิกเหล้า เพราะเพื่อนชวนเลิก เมื่อเลิกได้สักพัก ก็ได้เข็มคนหัวใจเพชรจาก สสส. มา อีกทั้งยังมีความคิดอยากเลิกเหล้าตลอดไป พร้อมอยากถวายเป็นพระราชกุศล ให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย
"ตอนนี้จะเข้าปีที่ 4 แล้วที่เลิกเหล้ามา ก็สามารถปลดหนี้ได้ 2 แสนกว่าบาท ชีวิตครอบครัวก็ดีขึ้น ร่างกายก็แข็งแรง จึงอยากชวนนักดื่มทุกคนให้เลิกเหล้า ในช่วงเข้าพรรษานี้และตลอดไป" ลุงเบิ้ม บอก เข้าพรรษานี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการลด ละ เลิก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อฟื้นฟูตับให้กลับมาดี…