เริ่ม 1 ก.พ.คนขับรถประจำทางต้องมีแอลกอฮอล์เป็น “ศูนย์”
ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ผู้ปฏิบัติงานเป็นพนักงานขับรถผู้ประจำรถ และผู้ให้บริการบนรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท แอลกอฮอล์ต้องเป็น 0 ตรวจพบโทษถึงจำคุก ผู้ประกอบการที่ละเลยมีโทษด้วย
นายเฉลิมไท ญาณภิรัต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจากการเมาสุรา กรมการขนส่งทางบกจึงเพิ่มมาตรการเสริมสร้างความปลอดภัยการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ด้วยการกำหนดให้พนักงานขับรถ ผู้ประจำรถ และผู้ให้บริการบนรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ต้องงดดื่มสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยต้องมีแอลกอฮอล์เป็น 0 ในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
หากตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ จะถือว่าเป็นผู้เสพสุรา และหากพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือกเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะถือว่าเป็นผู้เมาสุรา ซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่ควบคุมกวดขันและดูแลพนักงานขับรถและผู้ประจำรถ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท พร้อมทั้งพิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วย
มาตรการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะมากยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางบกได้รณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะแอลกอฮอล์ต้องเป็น 0 ด้วยการตรวจสอบตามสถานีขนส่งผู้โดยสารและระหว่างเส้นทางต่างๆ หากตรวจพบให้เปลี่ยนพนักงานขับรถทันที พร้อมทั้งพิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ประกอบการขนส่งในการกวดขันพนักงานขับรถ และสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะมากยิ่งขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
