“เราเลิก(บุหรี่)กันเถอะ” สกัดเยาวชนนักสูบหน้าใหม่

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จัดเสวนา “เราเลิก(บุหรี่)กันเถอะ” สกัดเด็กเยาวชนนักสูบหน้าใหม่ “รู้ทันควัน” ด้าน “โย่ง-อาร์มแชร์” สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นไทยเลิกบุหรี่ ชี้หากป้องกัน Gen Z ไม่ให้ริอมควัน สามารถลดนักสูบหน้าใหม่ได้ถึง ร้อยละ 90

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรม “เราเลิก(บุหรี่)กันเถอะ” เพื่อรณรงค์ป้องกันนักสูบหน้าใหม่ในกลุ่มเด็กและเยาวชน และต่อยอดความรู้นิทรรศการหมุนเวียน “รู้ทันควันKnow Smoking”

น.ส.ชวาลา ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ผู้ช่วยผู้จัดการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า จากการสำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า เยาวชน อายุ 15-18 ปี ติดบุหรี่ ถึง 353,898 คน ซึ่งเด็กไทยที่สูบบุหรี่ 10 คนนั้น จะมี 7 คน จะติดบุหรี่ไปตลอดชีวิต และป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากสูบบุหรี่ ร้อยละ 50 ขณะนี้อายุน้อยกว่า 15 ปีมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่วงจรการเสพติดบุหรี่ ดังนั้น การป้องกันนักสูบหน้าใหม่เป็นมาตรการที่สำคัญยิ่ง ช่วยลดการป่วย และการตายจากการสูบบุหรี่ ยิ่งกว่านั้น หากเยาวชนตกเป็นทาสบุหรี่จะเป็นด่านแรกของการก้าวไปสู่สิ่งเสพติดและอบายมุขที่ร้ายแรงชนิดอื่นๆ จากข้อมูลของ ดร.ศรัณญา เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลการสำรวจ สถานการณ์การบริโภคยาสูบของประชากรไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลงจาก 12.2 ล้านคนในปี 2534 เป็น 10.9 ล้านคนในปี 2558 พบว่าส่วนใหญ่เป็น Generation Z (อายุ 7-20 ปี) ซึ่งหากเราช่วยกันป้องกัน Gen Z จากการเริ่มสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ก็จะสามารถลดนักสูบหน้าใหม่ได้ถึง ร้อยละ 90

นายอนุสรณ์ มณีเทศ หรือโย่ง-อาร์มแชร์ ศิลปินนักร้อง นักแสดง กล่าวว่า ตนเคยสูบบุหรี่  เป็นพฤติกรรมความเคยชิน และคิดว่าเป็นวิธีคลายเครียด โดยไม่ได้คิดถึงพิษภัยของบุหรี่ แต่เพราะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพทำให้มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว คนรอบข้างรังเกียจที่สำคัญคือปัญหาสุขภาพ ตอนเล่นกีฬาหรือร้องเพลงก็รู้สึกเหนื่อยง่าย ทำให้ตัดสินใจเลิกบุหรี่ ซึ่งพยายามมาหลายวิธี แต่วิธีที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ คือ การหักดิบ และคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ภรรยา และกำลังใจจากคนรอบข้าง ขณะนี้เลิกบุหรี่ได้ 1 ปีแล้ว กว่าจะมาถึงวันนี้เราต้องผ่านบททดสอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสังคมเพื่อนที่ยังสูบบุหรี่ เราต้องใจแข็งผ่านมันไปให้ได้

“ผลดีจากการเลิกสูบบุหรี่ คือ ออกกำลังกายได้นานขึ้น นอนหลับดีขึ้น รู้สึกตัวเลยว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น คนรอบข้างก็มีความสุข การเลิกบุหรี่เป็นการพิสูจน์ใจ พิสูจน์ตัวเอง ผลของการเสพติดสารนิโคตินมันแค่น้อยนิด ที่จริงคือความเคยชินกับพฤติกรรมเดิมๆ หากชีวิตนึงไม่เคยทำอะไรสำเร็จแล้วเลิกบุหรี่ได้มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มาก และการสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของสังคมเพราะการสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มันไม่เท่ห์ เลิกบุหรี่สำเร็จเท่ห์กว่าเยอะ” นายอนุสรณ์ กล่าว

สำหรับนิทรรศการหมุนเวียน “รู้ทันควัน  Know Smoking” ที่บอกถึงพิษภัยของบุหรี่มาตั้งแต่ มิ.ย. ไปจนถึง ธ.ค.59 มีจำนวนยอดผู้เข้าใช้บริการ 13,891 คน กลุ่มผู้เข้าใช้บริการมากที่สุดคือกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 6-10 ปี โดยจะมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนบุหรี่ในรูปแบบของนิทรรศการสัญจรต่อยอดไปยังโรงเรียน มหาวิทยาลัย และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ของศูนย์เรียนรู้ฯ ต่อไป ทั้งนี้ภายในงานประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมเสวนาการเลิกบุหรี่ กิจกรรม walk rally รู้/ลอง/เลิก ฐานกิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมสามารถค้นหาคำตอบเกี่ยวกับบุหรี่ ทดสอบสมรรถภาพปอด และการส่งต่อกำลังใจในการลด ละ เลิก รวมทั้งการออกบูธให้ความรู้การเลิกบุหรี่จากภาคีเครือข่ายอาทิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข  เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ