เยี่ยมสวนโมกข์กรุงเทพฯ ศูนย์มหรสพเพื่อสุขภาวะทางปัญญา
หมอกฤษดา และเจ้าหน้าที่สำนักภาคีสัมพันธ์ เดินทางสู่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ขุมแห่งพุทธธรรมใจกลางมหานครกรุงเทพ แหล่งบ่มเพาะสุขภาวะทางใจและสติปัญญาสู่สังคม
เมื่อเร็วๆ นี้ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดินทางสู่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือสวนโมกข์กรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยม นพ.บัญชา พงษ์พานิช ผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุฯ และทีมงาน
นพ.บัญชา ได้นำ ทพ.กฤษดาและทีมงานจาก สสส. เดินชมส่วนต่างๆ ของหอจดหมายเหตุฯ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 10,000ตารางเมตร อาทิ สวนพุทธธรรม ลานธรรมใต้ร่มไม้ร่มรื่น, ลานหินโค้ง ซึ่งเปรียบเสมือนศาลาการเปรียญกลางแจ้ง, ห้องหนังสือและสื่อธรรม, ห้อง “นิพพานชิมลอง” ที่เป็นห้องทำสมาธิภาวนาตามอัธยาศัยของผู้มาเยือน จากนั้นได้นำชมงานศิลปะต่างๆ ที่แสดงไว้ภายในหอจดหมายเหตุฯ ซึ่งล้วนแต่แฝงความหมายและคติธรรมทางพุทธศาสนาไว้ทั้งสิ้น
“หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ นี้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ทำหน้าที่สืบสานพระพุทธศาสนา เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้ และจัดกิจกรรมเสริมสร้างสติปัญญา และจิตใจ รวมทั้งเป็นคลังปัญญารวบรวม ดูแล รักษา ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยพัฒนาเผยแผ่ด้านศาสนธรรมอีกด้วย ในส่วนของ “โครงการศูนย์สื่อ ศิลปะ มหรสพเพื่อปัญญา” นั้น ในปีที่ผ่านมาได้ผลิตสื่อและกิจกรรมออกมามากมาย อาทิ ธรรมะเล่มน้อย ธรรมะการ์ตูน ธรรมะนิทรรศการ เที่ยวไทยให้ถึงธรรม เป็นต้น เกิดเป็นกระแส “ธรรมภาคี” หรืออาสาสมัครผู้มีส่วนร่วมในธรรม เป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่และทำกิจกรรมต่างๆ ” ผู้อำนวยการหอจดหมายเหตุฯ กล่าว
นพ.บัญชากล่าวต่อว่า ด้วยปี 2555 นี้ ถือเป็นวาระครบรอบ 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือที่เรียกว่า “สัมพุทธชยันตี” ทางหอจดหมายเหตุฯ จึงได้จัด “เทศกาลพุทธลีลากรุงเทพ 2012” ขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระนี้ด้วย ในโอกาสนี้อยากเชิญชวน สสส. ให้มาเป็นธรรมภาคีในการขับเคลื่อนกิจกรรมธรรมะในครั้งนี้ร่วมกัน
ด้าน ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ยินดีที่ทางหอจดหมายเหตุฯ ให้เกียรติ ซึ่ง สสส.เห็นว่า เทศกาลพุทธลีลากรุงเทพ นี้ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งเทศกาลภาพยนตร์ การประกวดหนังสั้น มหกรรมหนังกลางแปลง ซึ่งเชื่อว่าจะมีพุทธศาสนิกชน รวมทั้งเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่มีผู้มาร่วมงานเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน
“เร็วๆ นี้ สสส.กำลังจะเปิด “ศูนย์เรียนรู้” ขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นสำนักงานแห่งใหม่แล้ว ยังเป็นทั้งศูนย์ข้อมูลสุขภาพ ศูนย์นิทรรศการ แหล่งกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับภาคี ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเชื่อมโยงการทำงานของภาคีต่างๆ รวมทั้ง พัฒนาศักยภาพคนทำงาน ด้วยหลักสูตรอบรมต่างๆ ตามความต้องการของคนทำงานอีกด้วย” ผู้จัดการ สสส. กล่าว
เรื่องโดย: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน teamcontent www.thaihealth.or.th