เมาขับรถโดยสาร-โทษคุก 3 เดือน

1 ก.พ. เริ่มบังคับใช้ ห้ามโชเฟอร์รถโดยสารขนาดใหญ่ดื่มเหล้า พบเกิน 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าผิด เถ้าแก่ต้องรับผิดชอบด้วย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่กระทรวงคมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมกับ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า ประกาศกรมการขนส่งทางบกกำหนดห้ามผู้ขับขี่รถสาธารณะดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือขับรถโดยเด็ดขาด หากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์จะต้องมีความผิดระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ควบคุมดูแลพนักงานขับรถและผู้ประจำรถ จะมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท และจะมีผลต่อการพิจารณาการต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วย จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. นี้เป็นต้นไป และต่อไปจะขยายผลไปยังรถตู้ รถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงรถส่วนบุคคลด้วย

ในส่วนของกรมการขนส่งฯ จะมีการจัดรถโมบายเคลื่อนที่เพื่อออกตรวจสอบในด่านพักรถตามจุดต่างๆ ซึ่งจะมีกระจายในแต่ละภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสานและใต้ เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามเพื่อช่วยลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันแบบบูรณาการในการร่วมรณรงค์ในเรื่องนี้

นพ.แท้จริง กล่าวว่า ต้องใช้ความพยายามกว่า 4 ปี ในการผลักดันให้ประกาศกรมการขนส่งฯ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ออกมาได้ โดยได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการรถโดยสารและภาคเอกชน ได้รับการสนับสนุนจากกรมการขนส่งทางบก บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และมาตรการต่อไปจะผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายให้รถส่วนบุคคลต้องมีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากเดิมกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด  

Shares:
QR Code :
QR Code