เผยเด็กไทยไอคิวต่ำเพราะขาดไอโอดีน

กระตุ้นสถานพยาบาลให้ไอโอดีนหญิงตั้งครรภ์

 

          รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารสุข เผยข้อมูลล่าสุดจากผลสำรวจปี 2552 พบไอคิวเด็กไทยลดลงเหลือ 91 จากไอคิวเฉลี่ยสากลอยู่ที่ 90-110 จุด เหตุสำคัญมาจากขาดไอโอดีน เร่งออกกฎกระทรวงฯ บังคับเดิมไอโอดีนในเกลือ ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด อีกทั้ง ให้สถานพยาบาลทุกแห่งแจกไอโอดีนหญิงตั้งครรภ์ เริ่มตุลาคม 2553

เผยเด็กไทยไอคิวต่ำเพราะขาดไอโอดีน 

          ภายหลังเปิดงานประชุมผู้ประกอบการผลิตเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วประเทศ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องไอโอดีนอีกครั้ง เนื่องจากผลสำรวจในปี 2552 พบตัวเลขที่น่าตกใจว่า เด็กไทยไอคิวต่ำลงเฉลี่ยที่ 91 จุด ถือว่าต่ำมาก โดยตามมาตรฐานสากลไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 90-110 จุด ซึ่งองค์การอนามัยโลก และ ยูนิเซฟ สรุปตรงกันว่า เป็นเพราะเด็กไทยและคนไทยขาดไอโอดีน

 

          โดยกลุ่มที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาการขาดไอโอดีนแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผลการสุ่มสำรวจระดับไอโอดีนในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งมีปีละ 8 แสนคน พบภาวะไอโอดีนในปัสสาวะต่ำกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลิตร คิดเป็นร้อยละ 59 ในปี 2552 ซึ่งเกินมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดให้ไม่เกินร้อยละ 50 หากหญิงตั้งครรภ์ขาดไอโอดีน ลูกที่คลอดออกมามีโอกาเสี่ยงพิการหรือปัญญาอ่อน กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดนโยบายชัดเจนว่า ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ต้องให้ไอโอดีนกับหญิงตั้งครรภ์ที่ไปฝากครรภ์ฟรี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 เป็นต้นไป

 

          กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มทารกแรกเกิด จะต้องตรวจเลือดทุกคนเพื่อดูระดับไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งไทรอยด์ฮอร์โมนนี้จะมีผลต่อความเฉลียวฉลาด และการเจริญเติบโตของเด็ก หากพกว่าไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ให้รีบรักษาทันที โดยไทรอยด์ฮอร์โมนนี้จะสัมพันธ์กับไอโอดีน และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มเด็กเล็กจนถึงประชาชนทั่วไป เนื่องจากไอโอดีนมีความจำเป็นสำหรับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับเด็กหากโตขึ้นและขาดไอโอดีน ระดับไอคิดจะพร่อง ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำหนดให้ทุกประเทศเติมไอโอดีนในเกลือ แต่ประเทศไทยยังไม่ได้บังคับ

 

          กระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศบังคับกำหนดให้เกลือที่ใช้เพื่อการบริโภคที่จำหน่ายในประเทศไทย ต้องเติมไอโอดีน 30-100 มิลลิกรัมต่อเกลือ 1 กิโลกรัม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยกร่างประกาศฯ เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามแล้ว จะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 180 วัน

 

          ดังนั้น โรงงานผู้ผลิตเกลือบริโภคทั้งหมด ต้องเร่งปรับปรุงในการเสริมไอโอดีนลงไปด้วยตามมาตรฐานกำหนด ซึ่งจะมีผลให้น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบที่คนไทยนิยมบริโภค จะต้องมีไอโอดีนเสริมไปด้วยปริยาย เพราะต้องใช้เกลือผสมไอโอดีนในการผลิต และหากบริษัทผู้ผลิตใดจะเติมไอโอดีนในสินค้าด้วย ก็สามารถดำเนินการได้ด้วย ซึ่งก็เป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาไอคิวลดต่ำลงเนื่องจากการขาดไอโอดีน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

 

          ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ผลิตเกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ เติมไอโอดีนลงไปในผลิตภัณฑ์นั้น กระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งออกแบบตราสัญลักษณ์โครงการ “เพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิว” ให้ผู้ผลิตนำไปแสดงบนฉลากสินค้า เป็นการรณรงค์สนับสนุนให้คนไทยบริโภคผลิตภัณฑ์เกลือและอาหารเสริมไอโอดีนอีกทางหนึ่ง หากกฎกระทรวงเรียบร้อยแล้ว กระทรวงสาธารณสุข จะได้ประการให้ผู้ผลิตทราบต่อไป เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวภายใน 180 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

update:30-07-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

Shares:
QR Code :
QR Code