เปิดใจ’เก๋’นักพนันวัยใส ความสูญเสียที่แลกมากับประสบการณ์ชีวิต
ฤดูกาลของการแข่งขันบอลยูโร 2012 เริ่มขึ้น พร้อมๆ กับจำนวนเม็ดเงินที่หมุนเวียนในธุรกิจพนันบอลที่มีเข้ามากกว่า หลักหมื่นล้านบาท ด้วยเหตุที่สามารถแทงได้ง่ายได้ผลตอบแทนสูงจึงทำให้เยาวชนไทยตกเป็นเหยื่อของการพนันบอลได้อย่างไม่รู้สึกตัว มารู้ตัวอีกทีก็เสียไปทั้งเงิน อนาคตไปอย่างไม่มีวันเรียกคืนมาได้
ผลสำรวจของเอแบคโพลล์ จัดสำรวจความคิดเห็นและทัศนคติ “ผู้หญิงต่อการพนันฟุตบอล ช่วงยูโร 2012” ในกลุ่มผู้หญิงช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปีและ 20 ปีขึ้นไป จำนวน1,000 ราย เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 2-6 มิ.ย. 2555 พบว่า จากกลุ่มตัวอย่าง 62.5% ยอมรับว่าเคยเล่นการพนัน แม้จะรู้ว่าผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม เกิดปัญหาสังคม
หากพิจารณาการเคยเล่นพนันพบข้อมูลที่น่าตกใจว่าในกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 20ปี เคยพนันบอลมาแล้วถึง 40.6% เมื่อจำแนกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า 75.0% เล่นพนันเป็นกลุ่มที่ว่างงาน รองลงมา คือ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 70.6% ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย 69.8% เกษตรกร/รับจ้าง 68.3% แม่บ้าน/เกษียณอายุ 63.6%พนักงานบริษัทเอกชน 63.2% และนักเรียน/นักศึกษา 49.0%
“กลุ่มตัวอย่าง 23.9 % ยืนยันว่า มีคนในครอบครัวเล่นพนันบอล และน่าตกใจไปกว่านั้นคือ 23.5% สามารถเข้าถึงแหล่งเล่นพนันบอลได้ง่ายมาก 20.6% จะติดตามวิเคราะห์ อัตราต่อรอง ผลการแข่งขันฟุตบอล 16.9% พูดคุยกันเรื่องอัตราต่อรอง ผลการแข่งขัน 13.9% เคยคิดหาเงิน ด้วยการเล่นพนันบอล และ12.2% ติดต่อกับคนที่รับทายผลบอล อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากติดตามการแข่งขันฟุตบอล กลุ่มตัวอย่างระบุว่า 48.6% เจ็บไข้ได้ป่วย เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ และ41.0% ต้องหยุดงานหยุดเรียนเนื่องจากติดตามดูการถ่ายทอดสด 31.4 %มีหนีสิน 16.2% ถูกขู่กรรโชก ถูกทำร้ายร่างกาย 15.9% ใช้หนี้ด้วยวิธีที่ผิด เช่นค้ายาเสพติด ขายบริการทางเพศ 11.4% มีความเครียด พยายามฆ่าตัวตาย” นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าว
“เก๋” สาวน้อยวัย 20 ต้นๆ ที่มาเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เคยเป็นนักพนันบอลตัวยงคนหนึ่ง ด้วยความคิดที่ว่า ใช้วิธีแทงบอลหาเงิน เพื่อมาจับจ่ายใช้สอย ในงานเสวนา“ผู้หญิงกับภัยร้ายพนันบอล” ที่จัดขึ้นโดยเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และร่วมกับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่สนามคริสตัลฟุตบอลคลับ
“เก๋” เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเล่นพนันบอล ว่า ตนเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี ถูกเลี้ยงดูมาแบบลูกคุณหนู ไปไหนมีรถรับส่งตลอด แต่ครอบครัวจะให้เงินจับจ่ายใช้สอยพอสมควร ไม่มาก ไม่นิยมสอนให้ลูกหลานใช้เงินฟุ่มเฟือยเมื่อมาเลี้ยงมหาวิทยาลัย ตอนนั้นมีแฟนแล้ว แต่ตัวเองรู้สึกว่า มีเงินไม่พอใช้เหมือนเพื่อนๆ เมื่อเห็นแฟนแทงบอลได้เงินมาง่าย เราจึงเริ่มต้นแทงบอลนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“ที่ครอบครัวแฟนเขาเล่นพนันบอลกันทั้งบ้าน เราเลยมีเครดิตหาที่จะแทงได้ง่ายด้วย การพนันมีทั้งได้และเสีย เมื่อเสียตนก็จะแทงเพิ่มในคู่อื่นๆ วงจรชีวิตเป็นอย่างนี้ตลอดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา”
เงินจำนวนหลักพันที่ใช้เริ่มต้นในการแทงพนันบอล เมื่อถูกก็จะได้เงินมาก ทำให้ “เก๋” รู้สึกว่า หาเงินได้มากและง่าย และเคยใช้เงินสูงสุดเป็นหมื่นต่อวันในการแทงพนันบอล จากนั้นเมื่อแทงไม่ถูกและคิดจะเอาคืน สิ่งที่ตามมาคือ “หนี้สิน” จำนวนก้อนโต ที่ต้องรีบหาเงินมาใช้คืน ซึ่งในช่วงนั้นเก๋บอกว่า ต้องขายทอง เอาเงินเก็บมาใช้หนี้ เพื่อไม่ให้พ่อแม่รู้ เมื่อหมุนเงินไม่ทันเริ่มโทร.หยิบยืมเงินจากเพื่อนฝูง แต่เพื่อนทุกคนเริ่มหนีหน้า ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ให้ยืมเงิน ในช่วงนั้นเก๋รู้สึกแย่ อยู่คนเดียวร้องไห้ทุกวัน
เมื่อเริ่มคิดได้ว่า การพนันเป็นสิ่งไม่ดีกับชีวิตของตนเอง “เก๋” บอกว่าเมื่อหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีที่ต้องคอยโกหกพ่อแม่มาตลอดแถมยังต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเอาเงินที่เธอไปแทงพนันบอลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้นมารวมกันเธอบอกว่า สามารถซื้อได้ทั้งบ้านและรถ จึงตัดสินใจเลิกเล่นทันที และเริ่มทยอยเคลียร์หนี้สินจนหมดวันนี้เธอจึงได้นำเรื่องของเธอมาเป็นอุทธาหรณ์ให้กับผู้หญิงและคนทั่วไปที่คิดจะหาเงินด้วยวิธีลัด
ด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า แนวโน้มการพนันช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิงอาจจะต้องตกเป็นเหยื่อพนัน ส่งผลกระทบโดยตรง เกิดปัญหาหนี้สิน ความรุนแรงในครอบครัว และหากไม่มีการแก้ปัญหาอาจจะเลยเถิดทำให้ผู้หญิงถูกกระทำได้ง่ายขึ้น หรือหาทางออกด้วยวิธีที่ผิด เช่น ทำงานไซต์ไลน์ ขายบริการเพื่อใช้หนี้ ถูกหลอกเป็นเหยื่อค้าบริการทางเพศ
“ช่วงนี้คงต้องจับตากลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงเป็นพิเศษ เพราะจะกลายเป็นเหยื่อพนันช่วงฟุตบอลยูโรได้ง่าย อาจถึงขั้นถูกหลอกให้ต้องใช้หนี้พนันด้วยการค้าบริการทางเพศ และลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียวคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้เนื่องจากพฤติกรรมการเล่นพนันมีมาก่อนหน้านี้นานแล้วและกฎหมาย การจับกุมก็ยังไม่หมดไป อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจจับการพนันอย่างจริงจัง รวมถึงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องมีหน่วยเฝ้าระวังพิเศษเพื่อดูผลกระทบช่วงนี้ เช่น เปิดศูนย์ครอบครัวคอยให้คำปรึกษา มีพื้นที่ระบายความรู้สึก รวมไปถึงศูนย์พึ่งได้ ของกระทรวงสาธารณสุขควรออกมาให้คำแนะนำ และอยากเรียกร้องต่อสื่อควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ควรชี้ช่องให้เกิดการเล่นพนัน แต่ควรพูดถึงผลกระทบที่เกิดจากการเล่นพนันฟุตบอล” นายจะเด็จ กล่าว
จากกรณีของ”เก๋” นับว่าเป็นความโชคดีที่เพียงแค่ช่วงเวลา 6 เดือนเท่านั้นที่เธอสามารถสลัดหลุดพ้นจากวงจรนักพนันได้อย่างทันท่วงที แต่จะมีนักพนันสักกี่คนที่ทำได้อย่างิเกิ๋ ที่ไม่ต้องสูญเสียอนาคตไปอย่างน่าเสียดาย ณวันนี้ต้องมีคำถามกลับไปยังสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า สังคมไทยจะเป็นเช่นไร ถ้าผู้หญิง เด็กและเยาวชน หันมาเล่นการพนันมากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย