เตือนลิปบาล์มลิปกลอสเพิ่มเสี่ยงมะเร็ง

หมอผิวหนังชี้ไม่ช่วยปกป้องแสงแดดแถมยังดึงรังสีอันตรายมากปกติเสียอีก

 

เตือนลิปบาล์มลิปกลอสเพิ่มเสี่ยงมะเร็ง

หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่าแพทย์โรคผิวหนังในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเตือนผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้ลิปบาล์มหรือลิปกลอสที่มีลักษณะมันวาวว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยิ่งมีผลทำให้เกิดการดึงรังสีอัลตร้าไวโอเลตเข้าสู่ร่างกายมากกว่าเดิมจึงทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่าปกติ

 

ทั้งนี้เป็นคำเตือนจากพญ.คริสติน บราวน์แพทย์โรคผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัย เบย์เลอร์ ในเมืองดาลลาส โดยแพทย์ท่านนี้กล่าวว่าการปกป้องริมฝีปากจากรังสีอันตรายจากดวงอาทิตย์นั้นมีความสำคัญมากพอ ๆ กับการป้องกันผิวกายส่วนอื่น ๆ จากรังสีอันตรายจากแสงแดด

 

พญ.บราวน์กล่าวโดยอ้างอิงถึงผลการวิจัยล่าสุดในประเทศสหรัฐฯที่พบว่ามีคนอเมริกันเพียง 25 เปอร์เซ็นต์หรือเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่ใส่ใจหาผลิตภัณฑ์ปกป้องริมฝีปากจากรังสีอันตรายจากแสงแดดด้วยผลิตภัณฑ์ปกป้องริมฝีปาก

 

พญ.บราวน์กล่าวด้วยว่าในความเป็นจริงแล้วริมฝีปากนั้นเป็นส่วนผิวหนังของร่างกายที่มีความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพเมื่อถูกแสงแดดบ่อย ๆ มากที่สุดส่วนหนึ่ง และยิ่งไปกว่าริมฝีปากยังเป็นส่วนที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งชนิดร้ายแรงหลายชนิดมากกว่าผิวหนังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอีกด้วย  เมื่อที่ว่ามะเร็งผิวหนังเกิดขึ้นริมฝีปากล่างแสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดมะเร็งลุกลามในส่วนรอบ ๆ ต่อมน้ำเหลืองเรียบร้อยแล้ว พญ.บราวน์กล่าว   

 

สำหรับลิปบาล์มหรือลิปกลอสที่มีความเมาวาวนั้นพบว่าไม่ได้ใช่ป้องกันการรับรังสีอันตรายจากแสงแดดเลยและที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยิ่งมีผลทำให้เกิดการดูดรังสีต่าง ๆ เข้าไปสู่ริมฝีปากมากขึ้นกว่าปกติอีกด้วยหรือกล่าวในอีกทางหนึ่งว่าลิปบาล์มหรือลิปกลอสชนิดมันวาวนั้นให้ผลในทางตรงกันข้างกับผลของครีมกันแดดฉะนั้นแล้วคำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้คือผู้ใช้ลิปบาล์มควรจะทาลิปจำพวกนี้หลังจากที่ได้ลงผลิตภัณฑ์กันแดดไปก่อนแล้วเท่านั้น หากผู้ใช้คิดว่าตนเองต้องออกไปอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลามากว่า 20 นาทีให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับริมฝีปากที่มีค่า spf 30 เสียก่อนที่จะลงแดดและทาซ้ำบ่อยๆ ระหว่างวัน

 

สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบกันคือพวกเขายิ่งไปทำให้แสงทะลุทะลวงเข้าไปสู่ริมฝีปากได้มากขึ้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสีใสๆ และมีความมันวาว พญ.บราวน์กล่าว

 

พญ.บราว์นกล่าวด้วยว่าทุกคนควรตรวจเช็คริมฝีปากตัวเองเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนังที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับอวัยวะส่วนนี้ โดยหากพบความผิดปกติที่ริมฝีปากเป็นต้นว่ามีสีเปลี่ยนไปในลักษณะแปลก ๆ เป็นต้นว่ามีริมฝีปากเป็นสีขาว ๆ หรือว่ามีการลอกเป็นเกล็ดเป็นประจำนาน ๆ หรือมีจุดบนริมฝีปาก

 

ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.

 

update 29-04-51

 

Shares:
QR Code :
QR Code