เตือน’พิษเต่าทะเล’ถึงตาย
นักวิชาการเตือนเต่าทะเลมีสารพิษร้ายแรง พบชาวภูเก็ตกินเต่าทะเลดับ 3 ราย ป่วยหลายราย ชี้สารพิษทำลายด้วยความร้อนไม่ได้ ผ่านทางน้ำนมจากแม่สู่ลูกได้ แนะติดป้ายเตือน “เต่าทะเล” เป็นสัตว์มีพิษห้ามรับประทาน
น.ส.กุสุมา สว่างพันธุ์ นักวิชาการชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จ.ภูเก็ต นำเสนอผลการศึกษาเรื่อง “การรับประทานเต่ากระกับการป่วยและเสียชีวิตในชุมชนไทยใหม่ จ.ภูเก็ต ปี 2553” ในการสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ภายใต้เรื่อง “ระบาดวิทยากับความท้าทายจากภัยสุขภาพโลกที่อุบัติใหม่” ว่างานระบาดวิทยา สสจ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเต่าทะเลจำนวน 3 ราย และมีผู้ป่วยอีกหลายรายในหมู่บ้านไทยใหม่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงได้ดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและศึกษาลักษณะการเกิดการกระจายของโรค ดำเนินการโดยการรวบรวมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลและสถานีอนามัย สัมภาษณ์ข้อมูลการรับประทานเต่ากระในชุมชนไทยใหม่จำนวน 861 ราย ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยจะต้องมีอาการอย่างน้อย 2 อาการคือ แสบปาก ชาบริเวณปาก เจ็บคอ กลืนลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ซึมหมดสติ ระหว่างวันที่ 4-25 มิ.ย. จนทราบผลที่แน่ชัดทั้งประวัติการรับประทานและผลทางห้องปฏิบัติการ
จากผลการศึกษาพบว่า มีผู้ป่วยจำนวน 48 ราย เสียชีวิต 3 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 6.25 ผู้ป่วยอายุระหว่าง 12-80 ปี ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาที่สถานพยาบาลจำนวน 25 ราย อาการที่พบมากที่สุดคือ เจ็บคอ ร้อยละ 87.50 แสบปากร้อยละ 72.92 ปากชาร้อยละ 33.33 และคลื่นไส้ อาเจียนร้อยละ 31.25 ระยะฟักตัว 2 ชั่วโมงถึง 11 วัน ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยทั้ง หมดมีผู้ป่วย 46 ราย มีประวัติรับประทานอาหารที่ปรุงจากเต่ากระตัวเดียวกันระหว่าง วันที่ 4-5 มิ.ย. อีก 2 ราย ดูดนมแม่ที่รับประทานเต่ากระ อัตราป่วยในกลุ่มผู้ที่รับประทานเต่ากระเท่ากับร้อยละ 48.48
นักวิชาการอธิบายว่า เต่ากระเป็นสัตว์ทะเลที่มีสารพิษ เรียกว่า chelonitoxism ซึ่งไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน สามารถผ่านทางน้ำนมส่งผลต่อทารกที่ดูดนมแม่ได้ ดังนั้น หนทางที่สามารถเตือนภัยได้น่าจะมีการประชาสัมพันธ์ห้ามจับสัตว์ทะเลอนุรักษ์ และป้ายแจ้งเตือนว่ามีพิษห้ามนำมารับประทาน อาจทำให้เสียชีวิตได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้