เตือนท่าแกล้งตายอันตราย ทำพลาดถึงชีวิต

เตือนผู้ทำ “แพลงกิ้ง” ท่าหวือหวาหวาดเสียวเสี่ยงตาย ที่กลุ่มวัยรุ่น ดารา นักร้อง ฯลฯ ฮิตระเบิดระเบ้อแห่ทำกันทั่วบ้านทั่วเมือง มีสิทธิ์กลายเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายนิทรา หรือตายได้ หากพลาดตกจากที่สูง ให้ระวังอย่าเล่นในที่สุ่มเสี่ยง เช่น ตึกสูงหรือที่หวาดเสียว อย่าฮิตตามกระแสจนเกิดเหตุโศกนาฏกรรมเหมือนที่แดนจิงโจ้

หลังจากที่กลุ่มวัยรุ่นไทยโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องอินเตอร์เน็ตและเฟซบุ๊ก กำลังฮิตทำ planking (แพลงกิ้ง) หรือท่าแกล้งตาย ท่ายอดฮิตจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นท่านอนราบคว่ำหน้าบนพื้นที่แปลกๆ แล้วทำตัวแข็งวางแขนไว้ข้างตัว แล้วบันทึกภาพออกมาโพสต์ประชันบนเว็บหรือโซเซียลเน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก เพื่อสร้างความสนใจและให้ได้รับการยอมรับในกลุ่มว่าสุดเจ๋ง สุดกล้าท้าความตาย โดยกระแสการถ่ายภาพแพลงกิ้ง กำลังฮอตฮิตไปทั่วโลก

โดยในเมืองไทยฮิตกันถึงขนาดมีการตั้งกลุ่มแพลงกิ้งไทยแลนด์ขึ้น มีสมาชิกถึงกว่า 9 พันคนด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะนิยมในกลุ่มวัยรุ่นวัยคะนองทั้งนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป แล้ว ยังระบาดในกลุ่มศิลปินดารา นักร้อง นักแสดง ที่ต่างก็พากันแชร์รูปแพลงกิ้งให้ชมกันอย่างมากมาย รวมไปถึงกลุ่มสื่อมวลชน มีการทำท่าบนสถานที่ต่างๆ ที่ไม่คิดว่าจะกล้าทำ ออกมาโพสต์โชว์อย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเมื่อ 15 มิ.ย.ว่า การเล่นแพลงกิ้ง เป็นแฟชั่นใหม่ที่เข้ามาในประเทศไทย และฮิตเร็วมาก โดยส่วนตัวเห็นว่าวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ก็ให้ความนิยมเล่น แต่มีความเป็นห่วงว่าอาจเกิดอันตรายได้หากเล่นในสถานที่ไม่เหมาะสม และเล่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะเมื่อเกิดพลาดพลั้งหรือตกลงมาจากที่สูง หัวแตก มีอันตรายต่อสมอง จนผู้เล่นอาจกลายเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชายนิทราได้ในที่สุด ดังนั้น ขอให้ผู้เล่นควรคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด ไม่ควรเล่นโดยสุ่มเสี่ยง เช่น ตามบันไดเลื่อน พื้นที่สาธารณะที่มียานพาหนะสัญจรไปมา สถานที่ที่มีความสูงมากจนเกินไป เป็นต้น

“ตอนนี้เห็นว่าศิลปินดาราหลายคนให้ความสนใจแฟชั่น ดังกล่าวด้วย จึงขอฝากไปยังแฟนคลับโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้เล่นด้วยความระมัดระวัง อย่าเลียนแบบตามกระแสมากเกินไป ไม่ใช่ว่าเราเห็นเป็นซุปเปอร์สตาร์เล่น แล้วเราก็แห่ไปให้ความสนใจ และเกิดความคึกคะนองมากขึ้น ดิฉันไม่อยากเห็นสังคมไทยเกิดโศกนาฏกรรมเพราะแฟชั่นเหมือนกับที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียมาแล้ว” ผอ.สำนักเฝ้าระวังกล่าว

ด้าน นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ถือเป็นค่านิยมของวัยรุ่นในช่วงขณะหนึ่ง เชื่อว่าหากไม่มีการห้ามปรามหรือต่อต้านกระแสนิยมดังกล่าวก็จะหายไปเอง เพราะเป็นเพียงแฟชั่นของวัยรุ่นขณะหนึ่งที่ต้องสร้างความสนใจ แปลกใหม่ ท้าทาย ตื่นเต้น และเกิดความสนุกสนานในกลุ่ม ไม่แตกต่างกับความนิยมการกระโดดบันจี้จัมพ์ ที่อดีตมีความนิยมอย่างมาก และการสร้างความสนุกสนานที่ท้าทายเหล่านี้ ยังทำให้เกิดการหลั่งสารความสุขในสมอง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ล้วนชอบความท้าทาย แปลกใหม่ เพื่อไม่ให้ชีวิตจำเจ น่าเบื่อ แต่หากมีความท้าทายที่เสี่ยงอันตรายมากจนเกินไปบ่อยครั้ง เช่น การปีนตึกสูงไป ถ่ายภาพในที่เสี่ยง ตามตึก เสาไฟฟ้าแรงสูง บ่อยครั้ง อาจสันนิษฐาน ได้ว่ามีความผิดปกติ ควรพบหรือปรึกษาจิตแพทย์ ทั้งนี้อยากฝากเตือนผู้ปกครองไม่ควรห้ามบุตรหลานการถ่ายภาพดังกล่าว เพราะเป็นเพียงกระแสนิยมชั่วขณะ แต่ควรให้บุตรหลานอยู่ในสายตา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย และเชื่อว่าไม่นานกระแสนิยมดังกล่าวจะหายไปเองในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ของผู้นิยมแพลงกิ้ง อธิบายความหมาย planking ว่า หมายถึงการปูไม้กระดาน หรือ แผ่นกระดาน การทำท่านี้จะต้องนอนราบคว่ำหน้านิ่งๆ กับพื้น แขนเหยียดข้างลำตัว คล้ายกับคนเสียชีวิตและต้องทำในที่สาธารณะหรือในสถานที่แปลกที่สุดเท่าที่จะทำได้ การทำในที่สูงหรืออันตรายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นฝรั่ง ที่ต้องการจะแข่งขันกัน ซึ่งที่จริงการทำ planking หรือ เล่นท่า”ไม่จำเป็นต้องโลดโผนการทำท่าฮาๆ สนุกๆ ก็สามารถนำมาโชว์กันได้ โดยมีต้นกำเนิดมาจากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ปี 2009 จากนั้นระบาดไปในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส มีการแข่งขันกันทำท่ายาก ท่าพิสดาร เพิ่มความเสียวมากขึ้น ซึ่งผู้ที่พบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า จุดประสงค์ของแพลงกิ้งคืออะไรและต้องการจะสื่ออะไร จนล่าสุดตกเป็นข่าวที่โด่งดังสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อหนุ่มออสเตรเลีย วัย 20 ปี ชื่อนายแอคตัน บีล ทำแพลงกิ้งบริเวณราวระเบียงห้องพักของอพาร์ตเมนต์ ซึ่งอยู่ชั้น 7 แล้วร่วงลงมาเสียชีวิต ทำให้กระแสของแพลงกิ้งเป็นที่รู้จัก

สำหรับในประเทศไทยเริ่มระบาดเข้ามาในกลุ่มนักท่องอินเตอร์เน็ตทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน ศิลปินดาราที่ต่างหาสถานที่ที่คิดว่าทำได้ยากและคนอื่นไม่กล้าทำปีนขึ้นไปนอนคว่ำหน้าทำตัวแข็งบันทึกภาพมาโชว์กันว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน โดยในกลุ่มศิลปินดารามีคนนำภาพมาโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ต่างๆ อาทิ t-pageant.com ใช้ชื่อกระทู้ว่า “ดาราไทยแห่ทำท่า planking” ทำท่านอนคว่ำทำตัวแข็ง รวมทั่งภาพกลุ่มนักร้องที่นอนบนพื้นเวทีคอนเสิร์ต บางคนนอนบนรถเข็นในห้างสรรพสินค้า

ในขณะที่กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนและคนทั่วไป มีภาพออกมาโชว์ในลักษณะประชันความกล้าบ้าบิ่นกันในเฟซบุ๊ก บางคนปีนขึ้นไปนอนถ่ายรูปบนโถปัสสาวะในห้องน้ำชาย บ้างก็เอาหัวมุดไปในเครื่องซักผ้าทำตัวแข็ง ยื่นออกมา แม้กระทั่งบนรถเข็นขายผลไม้ ก็ยังมีคนขอพ่อค้าขึ้นไปนอนถ่ายรูปเอามาโชว์กัน ขณะที่ในกลุ่มนักข่าวก็ไม่น้อยหน้า พากันทำท่านี้แล้วถ่ายมาโชว์กันในทุกที่ที่ทำได้ บางคนถ่ายบนขอบดาดฟ้าตึก นักข่าวสาวคนหนึ่งนอนขวางอยู่บนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจ 2 คัน โดยมีนักข่าวชายรายหนึ่ง ถึงขนาดลงทุนปีนขึ้นไปนอนบนหลังคาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง เพื่อเก็บภาพที่คิดว่าจะสร้างความฮือฮา และกระแสความนิยมในกลุ่มคนไทยมีมากขึ้นจนมีการตั้งเป็นกลุ่มแพลงกิ้งไทยแลนด์บน facebook มีแฟนเพจ เข้าไปกดไลค์กว่า 9,000 คน และในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ กลุ่มแพลงกิ้ง ไทยแลนด์ ได้นัดรวมตัวกันไปทำแพลงกิ้งที่สยามสแควร์ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ