เตือน!!ควันบุหรี่กำลังจะฆ่าคุณ
คนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่วันละ 115 คน!!! …หนึ่งในจำนวนนี้อาจเป็นคุณหรือคนที่คุณรัก ถ้ายังไม่เลิกสูบบุหรี่!!!
“บุหรี่”…ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาสุขภาพ จึงจำเป็นที่สังคมโลกจะต้องช่วยกันปลุกกระแสการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ และช่วยกันแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ ดังนั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันงดสูบบุหรี่โลก” ด้วยเหตุนี้ ทางมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็มิได้นิ่งนอนใจ ขานรับการปลุกกระแสดังกล่าว ด้วยการผนึกกำลังกับ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ จัดงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ในวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรมสยามซิตี้
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เล่าให้ฟังว่า บุหรี่ก่อความสูญเสียต่อสังคมไทย และทั่วโลกอย่างมหาศาล โดยบุหรี่คร่าชีวิตคนทั่วโลกปีละ 5.4 ล้านคน หรือวันละ 14,794 คน ส่วนในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 23 ปี ที่มีคนไทยต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของตัวเองจากการสูบบุหรี่ไปแล้วประมาณ 1 ล้านคน และในปัจจุบันก็ยังมีผู้สูบบุหรี่อยู่ถึง 9.5 ล้านคน หากคนเหล่านี้ยังไม่หยุดทำร้ายตัวเอง จะส่งผลให้ 1 ใน 3 หรือประมาณ 3 ล้านคนจะป่วยและเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่
“แม้ประเทศไทยจะมีคำเตือนเป็นรูปภาพข้างซองแล้วก็ตาม แต่ขณะนี้บริษัทบุหรี่ใช้วิธีทำข้างซองสีสันสดใสเพื่อลดทอนความน่ากลัวของภาพคำเตือนลง และบางบริษัทยังคงใช้คำว่า ไลท์ (LIGHT) หรือ มายด์ (MIND) ปรากฏบนซอง ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลเสนอกระทรวงสาธารณสุขให้ควบคุม นอกจากนี้ จากมาตรการขึ้นภาษีบุหรี่ น่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบ ขณะเดียวกัน พบว่า มีความนิยมในกลุ่มยาเส้นเพิ่มมากขึ้นตามมา ซึ่งตนจะรณรงค์ให้รัฐขึ้นภาษียาเส้นด้วยเช่นกัน” ศ.นพ.ประกิต เล่าถึงความมุ่งมั่น
ศ.นพ.ประกิต เล่าต่อว่า สิ่งที่น่าเป็นกังวลในขณะนี้ คือ บารากุที่กำลังแพร่ระบาดอย่างมากในหมู่นิสิต นักศึกษา เนื่องจากมีกลิ่นหอม และคิดว่าการสูบบารากุผ่านการเผา ผ่านน้ำจะช่วยกรองสารพิษได้ ทั้งที่ความเป็นจริงการสูบผ่านน้ำไม่ได้ช่วยลดสารพิษแต่อย่างใด ซ้ำยังส่งผลให้ได้รับสารพิษโดยตรงอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางมูลนิธิก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งศึกษาหาข้อมูลและจะผลักดันให้เกิดการรณรงค์ถึงโทษของบารากุต่อไป
สำหรับในปี 2552 นี้ WHO ได้กำหนดคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกว่า Tobacco Health Warnings เพื่อต้องการกระตุ้นให้รัฐบาลของทุกประเทศพัฒนาให้คำเตือนบนซองบุหรี่มีประสิทธิภาพในการสื่อถึงพิษภัยและอันตรายที่แท้จริงจากการสูบบุหรี่ และเพื่อป้องกันวัยรุ่นจากการอยากลองสูบบุหรี่ โดย สธ. ได้กำหนดคำขวัญเป็นภาษาไทยของการรณรงค์ปีนี้ว่า “บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย”
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. เล่าว่า บุหรี่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดโรคอันดับ 3 ของคนไทยรองจากพฤติกรรมทางเพศ (เอดส์) และสุรา โดยแต่ละปีมีคนไทยที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 42,000 คน คิดเป็นชั่วโมงละ 4.7 คน หรือ วันละ 115 คน จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2550 พบว่า ประเทศไทยมีผู้ที่อายุมากกว่า 15 ปี เสพติดบุหรี่ถึง 9.5 ล้านคน เป็นชาย 9 ล้านคน คิดเป็น 36.5% เป็นหญิง 420,000 คน คิดเป็น 1.6% โดยเป็นเยาวชนไทยสูบบุหรี่ถึง 1,270,721 คน ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันเตือนพิษภัยของบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่มือสอง โดยขอให้คนในครอบครัว ญาติมิตรและเพื่อนฝูงช่วยกันเตือนสติผู้ที่สูบบุหรี่ให้เลิกสูบ และเด็กๆ ที่ยังไม่ติดบุหรี่ไม่ให้ริเริ่มสูบ
“นอกจากนี้ จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติยังพบอีกว่าโทรทัศน์เป็นแหล่งสำคัญที่สุดที่ให้ข้อมูลพิษภัยของบุหรี่คือ 82% ข้างซองบุหรี่ 36% สื่อสิ่งพิมพ์ 22% บุคลากรสาธารณสุข 21% เพื่อนและญาติ 18% วิทยุ 15% คนในบ้าน 10% ครู 1.7% พระ 0.8% และสาเหตุที่สัดส่วนการได้รับความรู้จากข้างซองบุหรี่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากคนไทยที่สูบบุหรี่ ครึ่งหนึ่งสูบบุหรี่ชนิดมวนเองอย่างยาเส้น ซึ่งไม่มีคำเตือนข้างซอง จึงเป็นเรื่องที่ สธ.จะต้องดำเนินการผลักดันในเรื่องนี้ต่อไป” นพ.ประพนธ์ เล่า
และแน่นอนว่าเจ้าฆาตกรร้ายอย่าง “บุหรี่” ยังคงทำหน้าที่คร่าชีวิตคนไทยอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งจากการสูบบุหรี่โดยตรง การได้รับควันบุหรี่มือสองและควันบุหรี่มือสาม บางครายังแกล้งคนสูบด้วยการนำโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง” มาให้ทรมานเล่นอีกด้วย
ผศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บอกว่า 1 ใน 3 ของมะเร็งทุกชนิดในชายไทยเกิดจากการสูบบุหรี่ 8% ของมะเร็งทุกชนิดในหญิงไทยเกิดจากการสูบบุหรี่ และ 1 ใน 10 ของคนไทยที่เสียชีวิตทั่วประเทศมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารพิษกว่า 4 พันชนิด เมื่อเข้าไปในร่างกายก็สามารถทำให้เกิดโรคในทุกระบบของร่างกาย อาทิ เมื่อเข้าไปในปอด ก็จะทำให้เกิดถุงลมโป่งพอง มะเร็งปอด หืด หวัด วัณโรค ปอดอักเสบ เข้าไปที่ทางเดินอาหารก็ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร หลอดเลือดโป่ง มะเร็งกระเพาะ ลำไส้ ตับอ่อน เรียกได้ว่า เข้าไปที่ไหนก็ก่อโรคที่นั่นก็ว่าได้ แต่!!ทุกคนสามารถป้องกันตัวเองจากโรคที่เกิดจากบุหรี่ได้ เพียงแค่ลด ละ เลิกบุหรี่เท่านั้น
โดยในงานนี้ ผศ.นพ.สุทัศน์ ได้นำผู้ป่วยโรคมะเร็งมาร่วมกันเตือนใจนักสูบทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่าว่า ถ้าไม่เลิก คุณอาจจะต้องป่วยด้วยโรคอันเกิดจากการสูบบุหรี่เช่นกัน
นายชูศักดิ์ สุขชม ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด เล่าว่า ตอนนี้อายุ 55 ปี ใช้ชีวิตกับบุหรี่มากว่า 30 ปี สูบมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อต้นปี 52 ที่ผ่านมา เริ่มมีอาการไอหนัก เจ็บหน้าอก หายใจแล้วเหนื่อย ไม่มีแรง จึงไปพบแพทย์ และพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งปอด เลยตัดสินใจเลิกสูบ แต่เมื่อเริ่มเข้าใจถึงโทษของบุหรี่ก็สายไปแล้ว เนื่องจากโรคมะเร็งปอดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จึงอยากเตือนใจเยาวชนรุ่นใหม่ เลิกสูบเสียตั้งแต่วันนี้ อย่าปล่อยให้ควันบุหรี่เกาะกินร่างกายจนไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
“สูบบุหรี่” ไม่ใช่เรื่องเท่ห์ เพราะเพียงแค่คุณหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ก็เท่ากับว่า คุณได้ชักนำมัจจุราชร้ายให้เข้ามาปลิดชีวิตของคุณเองไปแล้วกว่าครึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น มันยังจ้องกระชากวิญญาณของคนที่คุณรักอีกด้วย วิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวคุณเองและคนที่คุณรักจากพิษภัยของบุหรี่ คือ การลด ละ เลิก บุหรี่ ก่อนที่มันจะฆ่าคุณ!!!
มาร่วมกันแสดงพลังต่อต้านการสูบบุหรี่ไปด้วยกันกับกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก “Tobacco Health Warnings: บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย” ในวันที่ 30 – 31 พฤษภาคมนี้ พร้อมชมขบวนพาเหรดรณรงค์ของสมาคมผู้ไร้กล่องเสียงในประเทศไทย นิทรรศการ “เตือน! ควันบุหรี่ฆ่าคุณ” และชมมินิคอนเสิร์ตจากดารา-ศิลปินจากค่ายต่างๆ ณ บริเวณลานเอนกประสงค์ ตลาดนัดสวนจตุจักร ทางเข้าประตู 1 ฝั่งถนนกำแพงเพชร ด้านหน้ากองอำนวยการ
เรื่องโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th
Update 20-05-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์