เตือนคนไทยวัย 40 ปี ก่อนโรคต้อหินถามหา

 

จักษุแพทย์เผยมีคนไทยเป็นโรคต้อหินไม่ต่ำกว่า1 ล้านราย ถือเป็นปัญหาใหญ่ด้านสาธารณสุขของไทยเตือนคนวัย 40 อัพ โดยเฉพาะผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต้อหินสูงกว่าผู้ชาย 3 เท่า แนะควรหมั่นดูแลสายตาและตรวจต้อหิน ก่อนสูญเสียการมองเห็นถาวร

รศ.นพ.ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานชมรมต้อหินแห่งเอเชียตะวันออกและใต้ กล่าวว่า “จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการแพร่หลายของโรคต้อหิน โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในชุมชนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ในกลุ่มตัวอย่าง 701 ราย ในกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป พบว่า 1 ใน 7 มีโอกาสเป็นโรคต้อหินมุมปิด และผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ชาย 3 เท่า ดังนั้นคนวัย 40 ปีขึ้นไป จึงควรเข้ารับการตรวจต้อหิน ซึ่งหากตรวจพบในระยะที่ขั้วประสาทตาของคนไข้ยังไม่ถูกทำลาย แพทย์สามารถทำการรักษาเพื่อป้องกันได้ หากตรวจพบช้าอาจถึงขั้นทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวร และถ้าถึงขั้นตาบอดคนไข้จะไม่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนดวงตาได้อีก เพราะประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นจะเกิดการสูญเสียไปด้วย”

ต้อหิน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.ต้อหินมุมเปิด พบบ่อยที่สุด เกิดจากความดันในลูกตาสูงขึ้นทีละน้อย 2.ต้อหินมุมปิด เกิดจากการที่มุมระหว่างม่านตากับกระจกตาแคบ ทำให้เกิดการอุดตันของทางระบายน้ำหล่อเลี้ยงภายในลูกตา ส่งผลให้ความดันตาสูงขึ้น 3.ต้อหินในเด็ก พบได้ตั้งแต่เกิด เป็นได้ทั้งต้อหินชนิดมุมเปิดและมุมปิด อาการต้อหินที่สังเกตได้คือ ปวดศีรษะ ปวดตา ตามัว มองเห็นแต่ตรงกลางและจะมีปัญหาในการมองเห็นจากด้านข้าง

“โรคต้อหินนั้น 9 ใน 10 คน มักจะไม่มีอาการโอกาสที่จะสังเกตอาการมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเมื่อพบว่าเป็นโรคต้อหินประสาทตาของคนไข้จะถูกทำลายไปแล้วมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ต้อหินจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนตาบอดถาวร ที่สำคัญโรคต้อหินจะมาแบบไม่รู้ตัว”

นอกจากนี้ คุณหมอยังกล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้คือ กลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป, คนที่มีประวัติครอบครัวและญาติใกล้ชิดเป็นโรคต้อหิน จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติสูงถึง 5-7 เท่า, คนที่มีสายตาสั้นมากหรือยาวมาก,คนที่ซื้อยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์ใช้เอง เพื่อให้หายจากอาการคันตา เคืองตา และตาแดง, โรคจำเพาะในลูกตา ถ้าหากสงสัยว่าตามีปัญหาควรรีบไปหาหมอทันที และโรคทางร่างกายที่อาจจะเกี่ยวข้อง อาทิ คนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคนอนกรนกลางคืน ไมเกรน คนที่ภาวะความดันต่ำมีโอกาสเป็นต้อหินสูงกว่าคนที่มีความดันสูง และยังพบว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต้อหินสูงกว่าผู้ชาย 3 เท่า

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตรวจพบเร็ว ซึ่งจะช่วยรักษาการมองเห็นของเราได้นานขึ้น คนเป็นโรคต้อหินต้องติดตามรักษาตลอด ต้อหินชนิดมุมปิดถ้าพบตั้งแต่แรกรักษาให้หายได้เลยถ้าพบในระยะท้ายต้องรักษาเพื่อประคับประคอง โดยการรักษาสามารถทำได้ 3 วิธี คือ การใช้ยา ผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตาเพื่อรักษาไปตลอดชีวิต, การใช้เลเซอร์ เป็นการรักษาเพื่อลดความดันตาหรือใช้ป้องกันภาวะต้อหินเฉียบพลัน และการผ่าตัด ดังนั้นเราจึงไม่ควรละเลย และควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพตาเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะได้ช่วยกันทะนุถนอมและยืดระยะเวลาการมองเห็นของเราได้ในระยะยาวนั่นเอง”

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code