เด็กประถมเข้าค่าย ชวนพ่อแม่เลิกเหล้า
เด็กประถม”จิ๋วแต่แจ๋ว” เข้าค่ายพัฒนาโครงงานคุณธรรม ชวนพ่อแม่เลิกเหล้า เติมความรู้สร้างภูมิคุ้มกันตนเองก่อนจะสาย กลายเป็นผู้ใหญ่ขี้เมาสร้างปัญหาสังคมในอนาคต
เด็กคืออนาคตของชาติ วลีนี้เราคงคุ้นเคยกันอยู่บ่อยๆ เมื่อเวลาผู้ใหญ่ในสังคมปรารถนาจะให้พวกเขาช่วยเป็นกำลังสำคัญต่อไปในการสร้างความมั่นคงและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าของประเทศชาติ หรือเพื่ออนาคตที่ดีของพวกเขาเอง แต่การที่จะหยิบยื่น สร้างเสริมให้เด็กกลายเป็นอนาคตและกำลังที่สำคัญของประเทศได้นั้น อย่าลืมว่า พวกเขาต้องมีพื้นที่ฐานที่ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการศึกษา การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม พฤติกรรมต่างๆ รวมถึงสิ่งแวดล้อมในสังคมและคนรอบข้างต้องเอื้อให้เกิดประโยชน์สำหรับการฝึกฝนเรียนรู้ ต่อพัฒนาการด้านความรู้ ความคิด ความสามารถที่ส่งผลต่อการการกระทำอย่างถูกต้อง แม้เด็กบางคนยังไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นอะไร จะเลือกทางเดินทางไหน แต่หากมีตัวอย่างหรือผู้นำทางที่ดี เป็นที่พึ่งได้ เป็นแบบอย่างและพร้อมให้คำปรึกษาก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการใช้ชีวิตของพวกเขาแน่นอน
ไม่นานมานี้ได้มีการจัด “ค่ายพัฒนาโครงงานคุณธรรมโพธิสัตว์น้อย สร้างภูมิคุ้มกัน และแก้ไขปัญหาเหล้า บุหรี่” เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ วีเทรน อินเตอร์เนชั่นแนลเฮ้าส์ กรุงเทพ โดยเป็นความร่วมมือของสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มกัลยาณมิตรเพื่อเครือข่ายวิถีพุทธ(กคพ.) เครือข่ายครูโรงเรียนปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ด้วยคำพ่อสอน เครือข่ายครูที่ปรึกษาโครงงานคุณธรรม และเครือข่ายเยาวชนไทยทำดีถวายในหลวง
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการจัดค่ายที่มีกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับประถมศึกษาในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนพ้นภัยเหล้า เบียร์ บุหรี่ ซึ่งมีโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกจากค่ายในระดับภูมิภาคไปเมื่อปลายปี 2556 จำนวน 31 โรงเรียน กว่า 150 คนและยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาได้ไปนำเสนอโครงงานที่ผ่านการคัดเลือกในระดับภาค มาคัดเลือกในระดับประเทศ ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 63 ที่ เมืองทองธานี อีกด้วย
การจัดค่ายพัฒนาโครงงานคุณธรรมฯ ที่ผ่านมานั้น แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเด็กๆที่ยังเป็นมือสมัครเล่นในการรณรงค์ บางโครงงานยังคงยึดตามสิ่งที่เคยได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้ จากโครงงานของรุ่นพี่ระดับมัธยมที่เห็นว่าน่าสนใจและเป็นไปได้ นำมาทดลองและปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่ของตนเองมากที่สุด แต่เรื่องของการทำความดีนั้น เด็กทุกคนที่เข้าค่ายครั้งนี้ต่างก็เชื่อว่า แม้เพียงเป็นการเริ่มต้นในวันนี้ หรือเพียงแค่คิดและลงมือทำ มีความพยายามและตั้งใจ ความสุขของเด็กๆที่อยากเห็นคนในครอบครัวของเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวหรือทำไม่ได้อีกต่อไป ที่สำคัญกลับเพิ่มทวีคูณด้วยความสุขของการเป็นผู้คิดริเริ่ม ลงมือทำด้วยใจบริสุทธิ์ มีความจริงใจ ปรารถนาดีต่อพ่อแม่ตลอดจนคนในชุมชน โดยมีครูที่ปรึกษาโครงงานช่วยเป็นผู้นำทาง และเป็นที่ปรึกษาที่ดี คอยแนะนำและให้ความรู้ความเข้าใจ เพื่อดำเนินไปอย่างเป็นระบบ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ความดีสามารถเริ่มได้ทุกเมื่อ เพียงแค่เราทุกคนมีความกล้า
ด.ญ.ศิริวรรณ กันไชยสัก น้องอุ้ม อายุ 12 ปี ชั้น ป.4 ร.ร.บ้านห้วยบง จ.เชียงใหม่ กับการทำโครงงานโพธิสัตว์น้อย ห้วยบง ร้องขอพ่อแม่เลิกเหล้า บอกด้วยน้ำเสียงแจ่มใสว่า “หนูเข้ามาทำโครงงานเพราะอยากให้คุณพ่อเลิกดื่มเหล้า ซึ่งตอนนี้คุณพ่อลดการดื่มลงได้แล้วและไม่ค่อยดื่มเหมือนเมื่อก่อน เพราะว่าหนูขอร้องท่านบ่อยๆ เวลากลับบ้านมาเหนื่อยๆ ก็จะบีบนวดให้ตลอด และช่วยคุณแม่ทำอาหารให้คุณพ่อทาน นอกจากนี้ก็มีการแจกแบบสอบถามเรื่องการดื่มเหล้าในชุมชนว่ามีการดื่มแค่ไหน ซึ่งก็พบว่าดื่มกันเกือบทุกบ้าน อยากชวนเพื่อนๆที่สนใจการเข้ามาทำโครงงานคุณธรรมแบบนี้ เพราะจะช่วยให้พ่อแม่ของพวกเราทุกคนลดการดื่มเหล้า มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ดีใจที่หนูช่วยทำให้สังคมอบอุ่น เพราะมีคนคนดื่มเหล้าน้อยลง เราจะมีความสุขและคนที่เรารักก็มีความสุขค่ะ”
ส่วน ด.ญ.ดวงกมล มุสิราช น้องหวา และด.ช.บัณฑิต ดีโวล์ฟ น้องแฮรี่ อายุ 12 ปี ชั้น ป.4 ร.ร.เติมแสงไข ปากช่องวิทยา จ.นครราชสีมา แท็กทีมมาเล่าประสบการณ์จากการได้เป็นแกนนำนักเรียน ชวนเพื่อนๆ รณรงค์ ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน ซึ่งน้องหวา บอกว่า “คนในชุมชนมีการดื่มเหล้าและติดยาด้วยเยอะมาก การที่ได้มารณรงค์แบบนี้จะช่วยเตือนสติว่ามันไม่ดี และได้ไปขอความร่วมมือกับทางร้านค้าให้งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยในวันพระโดยการขอปิดป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อบอกให้ชาวบ้านรับรู้ แต่มีบางร้านที่ไม่พอใจ ต่อว่าพวกหนูว่าไม่เข้าใจการขาย แม้เขารู้ว่ามันไม่ดีแต่ก็อยากขายเพราะอยากได้เงิน แต่บางคนก็ยังงดขายให้ตามที่ขอเพราะเห็นว่าเรามาทำความดี ทุกวันนี้หนูรู้สึกภูมิใจที่มาทำโครงงานและสามารถทำให้พ่อลดดื่มเหล้าลงได้ค่ะ”
ทางด้าน น้องกวาง หรือ ด.ญ.ญานุศส ศิริมงคล อายุ 14 ปี ชั้น ป.6 ร.ร บ้านหนองบัวน้อย จ.นครราชสีมา ประธานนักเรียนและแกนนำตัวน้อยแต่มากด้วยความสามารถ บอกว่า “ดีใจที่ได้มาเข้าค่ายที่นี่ พอมีโครงการก็อยากอาสามาเลย ชุมชนที่หนูอยู่มีการดื่มเหล้าเยอะมาก แต่ตอนนี้ลดลงแล้ว เพราะมีการรณรงค์เสียงตามสายอย่างต่อเนื่อง และชวนเพื่อนๆแกนนำในโรงเรียนไปขอติดป้ายงดขายเหล้าในวันพระในชุมชน โดยคุณครูที่ปรึกษาก็จะให้เราพูดดีๆกับเขา เขาจะได้เห็นใจและดูว่าเราตั้งใจมาทำความดีจริงๆ การทำโครงงานแบบนี้ ทำให้เรามีจิตสำนึกดีที่อยากให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพ ครูจะให้นักเรียนเขียนบันทึกความดีนำไปให้พ่อแม่อ่านทุกวัน กราบเท้าท่านก่อนนอน พยายามทำแบบนี้ จนในที่สุดหนูทำให้พ่อแม่เลิกเหล้าได้ มาเข้าค่ายครั้งนี้ก็พาน้องๆที่จะมาเป็นแกนนำต่อจากหนูมาด้วย จะได้เป็นการฝึกความรับผิดชอบและฝึกการเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนคนอื่นๆ และได้ฝึกการทำโครงงานคุณธรรมเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยทำกิจกรรมคุณธรรมมาก่อนแล้ว บางโรงเรียนก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ถ้าเป็นไปได้ก็จะลองนำไปปรับใช้ดูค่ะ”
นี่เป็นเพียงเสียงเล็กๆบางส่วน ของการทำความดีที่ดังก้องในใจของพวกเขาและส่งออกมาถึงพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ใหญ่ในสังคม ที่การทำประโยชน์ของเขาในครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า แต่คุณค่ากลับมามหาศาล คราวนี้ลองมาฟังผู้ใหญ่ใจดี กับการรับหน้าที่เป็นครูที่ปรึกษาโครงงานคุณธรรมกันบ้าง ว่าพวกเขาต้องมีความเสียสละ และทำหน้าที่ของครูอย่างเต็มที่ นอกจากการบอกกล่าวหรือแนะนำแล้ว การเป็นตัวอย่างที่ดี ประพฤติตนเองอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม มอบความรักความอบอุ่นเสมือนเป็นพ่อแม่คนที่สองของเด็กๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
ด้าน ครูศุภรดา วินัยโรจน์ ครูที่ปรึกษาโครงงานคุณธรรม ร.ร.บ้านหนองบัวน้อย จ.นครราชสีมา บอกว่า “ทางโรงเรียนสอดแทรกความรู้เรื่องคุณธรรมแก่นักเรียนในรายวิชาพุทธศาสนาตลอด ในชุมชนก็มีพระสงฆ์ที่เทศน์ เพื่อให้ชาวบ้านตระหนักเรื่องการดื่มเหล้ากันมากขึ้น โดยเฉพาะในวันพระที่มีคนมาทำบุญกันมากท่านก็จะคอยบอกกล่าว โชคดีอีกอย่างคือเรามีผู้นำชุมชนเข้มแข็ง ที่ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีมีมาตรการชุมชน มีการประชุมกับลูกบ้านส่ำเสมอ และเป็นคนพาเด็กๆ ไปขอร้องร้านค้าให้งดขายเหล้าในวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจและยอมปฏิบัติตาม ส่วนผู้บริหารโรงเรียนก็ยินดีและส่งเสริมกิจกรรมแบบนี้ การนำนักเรียนมาเข้าค่ายครั้งนี้ เห็นพัฒนาการของนักเรียนแกนนำที่กล้าคิดกล้าแสดงออกในทางที่ดี ก็จะพยายามคิดวิธีอื่นๆที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนาโครงงานให้มากขึ้น ทำประโยชน์ได้มากขึ้นทั้งต่อตัวเอง ครอบครัวและชุมชนต่อไปค่ะ”
และแม้กิจกรรมในค่ายพัฒนาโครงงานคุณธรรมจะจบลงไปแล้ว แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนต่างโรงเรียน ความสุข ความสนุกของเด็กๆเหล่านี้ จะยังคงดำเนินต่อไป เมื่อการทำความดียังคงเป็นที่ต้องการสำหรับเยาวชนและคนทุกคนอยู่ มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนต่อยอดความคิดและเกิดการพัฒนาในทางที่เหมาะสม โดยเฉพาะคำพูดหรือการบอกกล่าว อาจไม่ส่งผลเท่ากับการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ดังนั้นเราจะทำอะไร อย่าลืมว่ามีคนคอยมองและพร้อมจะทำตามเราได้เสมอ ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี และเมื่อเราอยากปลูกฝังให้เด็กเป็นคนดี เราก็ต้องทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีด้วยเช่นกัน ดังคำที่ว่า…ตัวอย่างที่ดีมีมากกว่าคำสอน
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)