เดิน-วิ่งสังคมสดใส สร้างคนหัวใจอาสา

ที่มา :  สยามรัฐ


ภาพประกอบจาก สสส.


เดิน-วิ่งสังคมสดใส สร้างคนหัวใจอาสา thaihealth


การวิ่ง การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ทั้งยังเป็นการสกัดกั้นให้ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอีกด้วย จึงไม่แปลกใจที่เรามักเห็นหลายคนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมออกมาวิ่งกันมากขึ้น นับว่าเป็นต้นแบบที่ดีและเป็นแรงบันดาลใจให้ใครๆ อีกหลายต่อหลายคนหันมาฉุกคิดถึงสุขภาวะเริ่มหันมารักสุขภาพตัวเองและคนรอบข้าง ชักชวนวิ่ง-เดินออกกำลังกายกันอย่างคึกคัก


เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต และมีใจอาสา แบ่งปันสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว รวมถึงอาสาด้านอื่นๆ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิหัวใจอาสา และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งสังคมสดใส ด้วยหัวใจอาสา มุ่งให้ทุกคนมีสุขภาพดีมีใจอาสา และห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


เดิน-วิ่งสังคมสดใส สร้างคนหัวใจอาสา thaihealth


กิจกรรมเดิน-วิ่งสังคมสดใส ด้วยหัวใจอาสา จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 เพื่อสานต่อและขยายผลความสำเร็จ โดยในปีนี้มีระยะทางการเดิน-วิ่ง ได้แก่ 10 กม. 5 กม. และ 1.7 กม.โดยคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานมูลนิธิหัวใจอาสา กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้เน้นการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง และห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มุ่งเน้นการสานต่อการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยเห็นคุณค่าและลงมือปฏิบัติตามในการให้และแบ่งปันกันในสังคม ในครั้งนี้มีการขอให้ผู้ร่วมกิจกรรมนำของเหลือใช้ มาแบ่งปันผ่าน'ร้านปันกัน'เพื่อนำไปขายและนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กในมูลนิธิยุวพัฒน์โดยทาง สสส.ได้สนับสนุนในกิจกรรมเดิน-วิ่งในทุกปีด้วยเช่นกัน


"ในปีแรกที่จัดกิจกรรมมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน มาปีนี้มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 คน เรียกว่าน่าดีใจที่หลายๆ ปีที่ผ่านมามีแฟนคลับเพิ่มขึ้น และหลายท่านรักสุขภาพ โดยความพิเศษของปีนี้คือ ผู้จัดมีความชำนาญในการจัดการ การแสดงนิทรรศการในงานมีความน่าสนใจมากขึ้น มีการอำนวยความสะดวก เปิดพื้นที่ให้ปูเสื่อนั่งพักผ่อนฟังดนตรีและรับประทานอาหารหลังวิ่งเสร็จอีกด้วย" คุณหญิงชฎา กล่าว


เดิน-วิ่งสังคมสดใส สร้างคนหัวใจอาสา thaihealth


นางสาวจิรวรรณ สุดแสวง ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมร้านปันกัน มูลนิธิยุวพัฒน์ กล่าวถึง โครงการร้านปันกันว่าการแบ่งปันเริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงเริ่มต้นจากตัวเรา บางสิ่งที่เราคิดว่าไม่มีค่ามันอาจกลายเป็นโอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ จึงอยากเชิญชวนให้ร่วมแบ่งปันสิ่งของ นอกจากจะได้ร่วมกิจกรรมสนุกภายในงานแล้วยังสามารถเพิ่มกิจกรรมแบ่งปันได้ตลอดเวลา ผ่านร้านปันกันหรือกล่องรับปันตามจุดต่างๆ


เดิน-วิ่งสังคมสดใส สร้างคนหัวใจอาสา thaihealth


ด้านเพื่อนซี้ต่างวัย อย่างนางสาวดวงใจ กาญจนรุ่งอายุ 38 ปี และนายพงษ์สิทธิ์ คชาชีวะ อายุ 26 ปี เล่าว่า นอกจากการวิ่งแล้ว ยังได้ร่วมกิจกรรมตามบูธต่างๆ และได้ทำบุญผ่านหลากหลายกิจกรรม ด้วยมองว่ากิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่ดี ได้วิ่งเพื่อสุขภาพ และได้ทำบุญ ซึ่งแท้จริงแล้วเรื่องวิ่งเป็นการออกกำลังกาย แต่จุดประสงค์เพิ่มเติมของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนอาจจะวิ่งเพื่อสุขภาพ หรือจะวิ่งเพื่อแบ่งปัน ล้วนส่งผลดีต่อตัวเราและคนอื่นแทบทั้งสิ้น


เดิน-วิ่งสังคมสดใส สร้างคนหัวใจอาสา thaihealth


ครอบครัว ธิขาว ที่คุณพ่อคุณแม่จูงมือลูกชาย อย่างน้องภู เด็กชายณัฐชพล ธิขาว วัย 7 ขวบ มาวิ่งในครั้งนี้ด้วย น้องภูบอกว่า ในปีนี้ได้รางวัล อันดับ 4 ประเภทวิ่งเยาวชนชายอายุไม่เกิน 12 ปี ซึ่งขยับมา 1 อันดับ จากปีที่แล้วที่ได้อันดับที่ 5 และคิดว่าการวิ่งมีประโยชน์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง


"นอกจากมาวิ่งแล้ว ยังเห็นการแบ่งปันสิ่งของจากคนอื่นๆ ทำให้รู้จักการแบ่งปันและทำประโยชน์ให้สังคม ซึ่งวันนี้ก็เอาของมาบริจาคกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยครับ"น้องภู บอกทิ้งท้าย


เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญของทุกคนไม่ใช่เฉพาะของตัวเราเองเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ครอบครัว และสังคมเพราะการเป็นคนสุขภาพดี ย่อมมีพลังทั้งกายใจที่จะทำอะไรได้อีกมาก ส่วนจิตอาสา เป็นพื้นฐานของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทำให้จิตใจผ่องใส อันเป็นผลพวงจากการที่ทำประโยชน์ต่อผู้อื่น นับว่ากิจกรรมเดิน-วิ่งสังคมสดใส ด้วยหัวใจอาสาดีทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจนั่นเอง

Shares:
QR Code :
QR Code