“เดินหน้าต่อ เพื่อลดนักสูบหน้าใหม่”

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ประกาศเดินหน้าสู้ต่อ และจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่บุคคลและ องค์กรที่ได้ร่วมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของของการดำเนินงาน

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า มูลนิธิฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายอย่าง จริงใจที่มีส่วนร่วมงานกับมูลนิธิฯ ในการสร้างค่านิยมที่ไม่สูบบุหรี่ให้แก่สังคมไทย จากความพยายามของทุกฝ่ายทำให้อัตรา การสูบบุหรี่ของชายไทยลดลงจากร้อยละ 60 เมื่อ 25 ปีก่อนลงมาเหลือ ร้อยละ 45 ในปัจจุบัน ในขณะที่หญิงไทยสูบร้อยละ 2.6 และมีคนไทยที่เลิกสูบบุหรี่ได้แล้วประมาณ 6 ล้านคน ขณะที่ผู้ไม่สูบบุหรี่ส่วนใหญ่ได้รับการคุ้มครองจากอันตรายของควันบุหรี่มือสอง 

ที่สำคัญการร่วมกันของทุกฝ่ายทั้งรัฐ ภาควิชาการ และภาคสังคม ทำให้ประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมยาสูบที่ก้าวหน้าสองฉบับ โดยฉบับหนึ่งควบคุมการโฆษณาและส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ และอีกฉบับห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะ ที่สำคัญคือยังมีกฎหมายสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ที่เอาเงินจากภาษีบุหรี่ และเหล้า มาสนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพและควบคุมยาสูบด้วย

“เดินหน้าต่อ เพื่อลดนักสูบหน้าใหม่”แต่อย่างไรก็ตาม มูลนิธิฯและเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบ ก็ยังมีภาระกิจที่ท้าทาย เพราะอัตราการสูบบุหรี่ของ ชายไทยยังสูงถึงร้อยละ 45 ขณะที่จำนวนคนไทยที่สูบบุหรี่ก็ยังมีมากถึง 13 ล้านคน และมีคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ปีละเกือบห้าหมื่นคน บุหรี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยป่วยและเสียชีวิตลำดับที่สอง ข้อมูลเหล่านี้เป็นดัชนีที่บ่งบอกว่า การที่จะทำให้คนไทยสูบบุหรี่ลดลงนั้นยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วที่อัตราการสูบบุหรี่อยู่ที่         ร้อยละ 20 และเป้าหมายของประเทศเหล่านั้นอยู่ที่การลดอัตราการสูบบุหรี่ให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 10

ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่จะยังคงยืนหยัดทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างแข็งขัน ต่อไป  เพื่อให้ประเทศไทยไปให้ถึงเป้าหมาย ลดอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายไทยลงให้เหลือต่ำกว่า 25% หรือเหลือ 1 ใน 4 ให้จงได้

ที่มา: มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

Shares:
QR Code :
QR Code