เครื่องดูดเสมหะ ยืดชีวิตผู้พิการ

          ร่างกายของคนเราสร้าง ‘เสมหะ’ ขึ้นเพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้ามาในระบบทางเดินหายใจและขับออกโดยการไอหรือสั่งน้ำมูก แต่สำหรับผู้พิการทางสมองจะไม่สามารถสั่งน้ำมูกและไอได้เอง


          ด้วยเหตุนี้เอง ผู้พิการทางสมองจึงเป็น บุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอันเนื่องมาจาก เสมหะ ที่น่าเป็นห่วงไม่น้อย จึงทำให้เกิด “ขบวนการคนตัวดี” กิจกรรมสร้างสรรค์จากกลุ่มคนทำรายการวิทยุเพื่อเด็กและครอบครัว โดยมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ได้ช่วยกันหารายได้มาซื้อเครื่องดูดเสมหะ และมอบให้กับครอบครัวที่มีเด็กพิการทางสมอง (CP) ทั้งหมด 34 เครื่อง นับเป็นกิจกรรมการกุศล ที่น่าปรบมือให้เป็นอย่างยิ่ง


/data/content/25874/cms/e_bdginouvwy89.jpg

แม่นก (ขวามือ) รับมอบเครื่องดูดเสมหะจากครอบครัวคนตัวดี


          แม่นก หรือเสาวภา ธีระปรีชากุล ประธานเครือข่ายครอบครัวแม่นก เล่าถึงความสำคัญของ “เครื่องดูดเสมหะ” ว่า เด็กพิการทางสมองส่วนใหญ่จะมีสภาวะแน่นิ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงต้องทำการดูดเสมหะออกจากปอด เพราะเมื่อไม่มีเสมหะค้างในปอดจะทำให้เด็กหายใจสะดวกนอนหลับสบาย และที่สำคัญคือ ไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอันเป็นที่มาของโรคต่างๆ และป้องกันการเสียชีวิตในเด็กพิการให้ลดลง


          แม่นกผู้อารี เล่าให้ฟังว่า “ศูนย์การเรียนรู้บ้านแม่นก เปิดทำการตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เห็นคือ มีเด็กพิการทางสมองเพิ่มมากขึ้น แต่เราได้เห็นการดูแลของพ่อแม่ที่มีความรักและความเข้าใจลูกพิการมากขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะในการดูแลลูกพิการนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่พ่อแม่ต้องเข้าใจและให้ความสำคัญว่าลูกเป็นอะไร แก้ไขยังไง และต้องทำยังไงบ้าง ทำด้วยตัวเองไหม หรือพึ่งพิงคนอื่น”


          แม่นกยังบอกอีกว่า เราต้องการให้สังคมของคนพิการค่อยๆ เข้มแข็งทีละครอบครัว จนเป็นปึกแผ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งถ้าใครมีลูกพิการแม่นกช่วยฟรี โดยสามารถติดต่อที่เว็บไซต์บ้านแม่นกดอทคอม โทรศัพท์ 08-1432-7801 ทั้งนี้ก็หวังจะสร้างพลังให้คนพิการได้มีโอกาสทัดเทียมกับนานาชาติ


          “โดยส่วนตัวแล้วยังเชื่อว่า การมีความรู้ความเข้าใจเรื่องเด็กพิการทางสมองและเด็กพิการอื่นๆ อย่างลึกซึ้ง จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันจะนำมาซึ่งความพิการได้” แม่นกทิ้งท้าย


/data/content/25874/cms/e_bcefgjoruvw3.jpg

สมาชิก "ขบวนการคนตัวดี"


/data/content/25874/cms/e_acgjnoqrwz78.jpg


          ทางด้าน คุณผ่องพรรณ สีขาว คุณแม่ของ “น้องขลุ่ย” หรือ นายศักดิ์พัฒน์ สีขาว อายุ 17 ปี หนึ่งในครอบครัวที่ได้รับมอบเครื่องดูดเสมหะเล่าว่า ลูกชายพิการทางสมองจากการผ่าตัดหัวใจ เมื่อตอนอายุ 7 เดือนครึ่ง เนื่องเกิดการอุดกั้นของอากาศที่จะส่งไปยังสมองทำให้สมองขาดอากาศและเกิดความพิการ


          คุณผ่องพรรณ อธิบายให้ทราบว่า หลังผ่าตัดเสร็จและกลับมาอยู่บ้านก็ต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ไปที่โรงพยาบาลบ้าง ที่มูลนิธิบ้าง จนน้องขลุ่ยอายุ 9 ขวบ ถึงได้มารู้จักกับศูนย์การเรียนรู้บ้านแม่นก ที่นี่มีการสอนกายภาพบำบัด แบบนวดไทย นวดเพื่อกระตุ้นสายตา นวดปาก ทำทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า และการฝึกการเคลื่อนไหวแบบญี่ปุ่น (โดสะโฮ)” ซึ่งอาการของน้องมีปัญหาเรื่องเสมหะเยอะมาก อย่างน้อยต้องดูดเสมหะถึงวันละ 10 ครั้ง โดยเฉพาะถ้าอยู่ในอากาศเย็น และเมื่อออกไปข้างนอกหรือไปโรงพยาบาล ปัญหาก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น


          "ตอนนี้น้องขลุ่ยอายุ 17 ปี คุณพ่อคุณแม่ได้เรียนรู้และปรับตัวในการดูแลลูกพิการได้เป็นอย่างดี จึงอยากเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวอื่นๆ ว่า อย่าท้อแท้และจงสู้ต่อไป เด็กพิการทางสมองไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดูดเสมหะทุกคน แต่สำหรับรายที่จำเป็นต้องใช้ เครื่องดูดเสมหะนี้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ และสามารถช่วยชีวิตเด็กพิการทางสมองได้" คุณแม่เล่า


          พ่อแม่ท่านใด ที่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าวนี้ สามารถเรียนรู้กิจกรรม หรือค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมของศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. สามารถติดตามได้ที่ www.thaihealthcenter.org หรือ โทร. 08-1731-8270


 


         


          ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ