เข้าพรรษา พิชิตเบาหวาน-อ้วนลงพุง

เผยงดเหล้า-ออกกำลังกายช่วยได้

 เข้าพรรษา พิชิตเบาหวาน-อ้วนลงพุง

          สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย รณรงค์ให้ประชาชนมีสุขภาพดี ตระหนักถึงปัญหาและอันตรายของโรคเบาหวานและสามารถป้องกันให้ตนเองห่างไกลโรค โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา ละเว้นเหล้าลดความเสี่ยงโรคเบาหวานและอ้วนลงพุง พร้อมเน้นออกกำลังกายต้านทานโรค

 

          น.พ.สิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เผยว่า สำหรับมาตรการของกรุงเทพฯ เราพยายามให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวานกับประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก

 

          บางคนใช้โอกาสอันดีในช่วงเข้าพรรษา งดดื่มเหล้าและแอลกอฮอล์ ตลอดจนถือศีลกินเจ ซึ่งสามารถช่วยทำให้ลดอัตราการเกิดโรคเบาหวานได้ แต่สำหรับบางคนเป็นโรคเบาหวานโดยที่แสดงอาการช่วงที่หยุดดื่มเหล้าอาการที่แฝงตัวอยู่อาจปรากฏขึ้นมา ดังนั้นจะกลายเป็นจังหวะที่แสดงอาการอย่างฉับพลัน บางท่านอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน จึงดื่มเหล้าตามปกติเหมือนเดิมตลอด เมื่อถึงเวลาตั้งใจหยุดดื่มแอลกอฮอล์อาการของโรคจะเริ่มปรากฏขึ้น

 

          โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน แอลกอฮอล์นับว่าเครื่องดื่มที่คุณหมอสั่งห้ามเด็ดขาดเพราะมีผลต่อตับซึ่งเป็นอวัยวะที่ผลิตอินซูลิน แต่หากหยุดการดื่มได้และหันมารักษาสุขภาพนับเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเอง รวมทั้งคนอื่นที่ยังไม่เป็นโรคเบาหวาน

 

          น.พ.สิทธิสัตย์ กล่าวด้วยว่า ใครที่เป็นนักดื่ม แต่ตั้งใจว่าจะหยุดพักในโอกาสสำคัญทางศาสนาอาจมีการเตรียมตัวสำหรับเรื่องอาหาร เพราะบรรดาผู้ดื่มเหล้าจะเกิดความเคยชิน หากคิดไม่ดื่มเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค บางคนหันมาดื่มน้ำผลไม้ น้ำอัดลม ผลไม้หรืออาหารที่รสชาติจัดจ้าน

 

          ลักษณะการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของร่างกาย ข้อแนะนำควรยับยั้งช่วงการรับประทาน เพราะการเลิกดื่มแบบกะทันหันบางคนจะรู้สึกหงุดหงิดต้องทดแทนด้วยการกินอาหารจุกจิก รางกายสะสมไขมัน คอเลสเตอรอลเป็นอันตรายต่อร่างกาย นับเป็นการดีหาก ลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ แต่ต้องมีการวางแผนการบริโภคอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายและออกกำลังกายควบคู่กันด้วย เพื่อป้องกันการเกิดโรคทั้งกับคนไม่เป็นโรคเบาหวานและเป็นโรคนี้อยู่แล้ว

 

          ศ.พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์โรคเบาหวานและอุปนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเข้าพรรษามีการรณรงค์งดเหล้าเพื่อความปลอดภัย หากเปรียบเทียบระหว่างข้อดีและข้อเสียจากการเลิกเหล้า ข้อดีมีมากกว่าแน่นอนลดอัตราการเสียชีวิต การเกิดโรคจากการดื่มเหล้า โดยเฉพาะคนเป็นโรคเบาหวานกับแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มต้องห้ามอย่างเด็ดขาดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมีผลต่อตับจะทำให้เป็นโรคตับอักเสบ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรดื่มอยู่แล้ว แพทย์สั่งห้ามเพราะเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในและโรคเบาหวาน สำหรับบุคคลที่ไม่ดื่มเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน อย่ารับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัด อาทิ ทุเรียน องุ่น หรืออาหารไขมันสูง

 

          ช่วงเข้าพรรษาบางคนถือโอกาสละเว้นการทานเนื้อสัตว์ ซึ่งต้องทานโปรตีนจากถั่วทดแทน หรือการรับประทานโปรตีนเกษตรควรอยู่ในประมาณที่เหมาะสม เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้นแปรรูปมาจากแป้งทำเลียนแบบให้เหมือนเนื้อสัตว์ แต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดตมาก หากไม่มีการควบคุมการบริโภคส่งผลต่อการเกิดโรคเช่นกัน

 

          นอกจากนี้การนั่งชมคอนเสิร์ตหรือดูภาพยนตร์เป็นเวลานานๆ ส่งผลต่อสุขภาพเช่นกัน โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดเมื่อยต้องมีการขยับเขยื้อนร่างกายบ่อย การอยู่ในท่านั่งแบบเดิมเป็นเวลานานทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ควรเปลี่ยนอริยาบถให้กล้ามเนื้อได้ออกกำลังกาย

 

          ศ.พญ.วรรณีกล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดงานเบาหวานสี่มุมตั้งแต่ครั้งแรกจนกระทั่งถึงครั้งที่ 3 นับว่าเป็นการตอกย้ำให้ทุกคนตระหนักและเข้าใจถึงการดูแลร่างกายมิให้เกิดโรค บางคนเป็นเบาหวานตั้งอายุยังน้อยเรียกว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ต้องฉีดยาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากตับอ่อนถูกทำร้าย ทั้งนี้เราต้องย้ำเตือนให้คนไทยเห็นถึงภัยเงียบของโรคตั้งแต่ยังไม่เกิดเป็นโรคประจำตัว เพราะเบาหวานเป็นจุดของโรคแทรกซ้อน สังเกตจากผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีโรคอื่นพ่วงทั้ง ความดันโลหิต ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ

 

          ทางด้าน อ.สง่า ดามาพงษ์ โฆษกกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การงดเหล้าช่วงเข้าพรรษาไม่เพียงแต่จะทำให้ห่างไกลโรคเบาหวาน ยังช่วยให้ลดการอ้วนงพุงอีกด้วย ทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ 1 ขวดจะให้พลังงานเท่ากับข้าว 10 ทัพพี ซึ่ง 1 ทัพพีจะให้พลังงาน 80 แคลอรี่ เท่ากับว่าเราได้ประมาณ 800 แคลอรี่ โดยปกติพลังงานต่ออาหาร 1 มื้อควรจะอยู่ที่ประมาณ 300-450 แคลอรี่ และต่อวันต่อคนอยู่ที่ ถ้าเป็นเด็กกับผู้หญิง 1600-2,000 แคลอรี่ และผู้ชายหรือผู้ใช้แรงงาน 2,000-2,400 แคลอรี่

 

         ดังนั้นหากเราดื่มเบียร์แถมยังกินกับแกล้มอีกก็จะทำให้ได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น อันนำไปสู่สาเหตุโรคอ้วนลงพุงซึ่งเป็นสาเหตุนำไปสู่โรคต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือด โรคความดัน และโรคเบาหวาน ได้ ทั้งนี้เมื่อร่างกายใช้พลังงานไม่หมดจะถูกสะสมไว้ในรูปไขมันพอกอยู่บริเวณพุง กลายเป็นไขมันอันตราย ก่อให้เกิดโรคอ้วนลงพุง ที่สำคัญทำให้ร่างกายควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ได้ อันเป็นชนวนทำให้เกิดโรคเบาหวาน โดยมาตรฐานรอบเอวหญิงไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร และชาย 90 เซนติเมตร ถ้าหากงดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษาหรือตลอดไป พร้อมทั้งขยันออกกำลังกาย ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคอ้วนลงพุงและเบาหวานอย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

 

 

update : 21-07-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code