อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เล็กดี
วิจัยชี้เด็กรักการอ่าน-พัฒนาวิชาการเท่า
เผยผลวิจัยโครงการหนังสือเล่มแรกในเด็กไทย 5 ปีแรก พบพ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่ 6 เดือนถึง 6 ขวบ เด็กมีนิสัยรักการอ่าน ใฝ่รู้ อารมณ์ดี มีเหตุผล แถมมีพัฒนาการในวิชาคณิต-วิทย์และวิชาอื่นๆ มากกว่าเด็กปกติ3 เท่า มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กจัดอบรมส่งเสริมให้ลูกรักการอ่าน ให้พ่อแม่รุ่นใหม่ 17 ก.ค.นี้
นายเรืองศักดิ์ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก กล่าวว่า ผลวิจัยในต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น ที่ทำโครงการหนังสือเล่มแรก หรือบุ๊กสตาร์ท พบว่า พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังวันละ 5-15 นาทีทุกวันตั้งแต่เด็กอายุ 0-6 ปี สมองเด็กจะพัฒนาได้ถึง 87% โดยเฉพาะในช่วง 0-3 ปี สมองเด็กพัฒนาได้ถึง 70% ซึ่งมูลนิธิได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ทำวิจัยโครงการบุ๊คสตาร์ทในเด็กไทยตั้งแต่ปี 2547-2552 โดยให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังวันละ 5-15 นาที ตั้งแต่อายุ 6 เดือนต่อเนื่องจนถึง 6 ขวบ มีเด็กในโครงการ 106 คน ใน จ.ราชบุรีเลย ปทุมธานี นครปฐม และกรุงเทพฯ
“ตอนนี้เด็กในโครงการบุ๊กสตาร์ทมีอายุ 5 ขวบแล้ว พบว่าเด็กกลุ่มนี้เมื่อเจอหนังสือก็จะนั่งอ่านมีความสนใจใฝ่รู้ มีคำถามเยอะ เป็นเด็กอารมณ์ดีและมีเหตุผล มีพัฒนาการในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาอื่นๆ มากกว่าเด็กปกติ3 เท่า และจะหารือหน่วยงานที่ร่วมกันทำโครงการขอขยายโครงการนี้ไปจนถึงปี 2555 เพื่อติดตามดูพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กกลุ่มนี้จนถึงอายุ9 ขวบ นายเรืองศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ มูลนิธิได้ออกบูธในงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 16-20 กรกฎาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดอบรมโครงการบุ๊กสตาร์ทให้ผู้ปกครอง โดยนำเสนอโครงการที่ทำวิจัยในเด็กไทย หนังสือที่ใช้และกระบวนการส่งเสริมให้ลูกรักการอ่าน วันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ที่ห้องมีทติ้งรูม 3 แบ่งเป็น 2 รอบคือ เช้าเวลา 10.00-12.00 น. และบ่าย เวลา 13.00-15.30 น. ซึ่งในช่วงเช้ามี นพ.โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานพิธีเปิดและจะแจกบุ๊กสตาร์ท 60 ชุดให้แก่ผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการด้วย
ด้านนางริสรวล อร่ามเจริญ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหนังสือทุกประเภทปีนี้คาดว่าโตขึ้น 7% มีมูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้วโตขึ้น 12% มีมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนตลาดหนังสือเด็กและเยาวชนปีนี้คาดว่าโตขึ้น 10% จากปีที่แล้ว 15% ทั้งนี้ ตลาดหนังสือทุกประเภทโตลดลงจากปีที่แล้วเพราะผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ส่วนกลุ่มผู้ซื้อหนังสือเด็กยังเป็นพ่อแม่กลุ่มเดิมที่ส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านและเวลาซื้อจะดูคุณภาพของหนังสือมากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update:16-07-51