อึ้ง! ยอดนักสูบไทยพุ่งเฉียด 11 ล้านคน

เผยสิงห์อมควัน ซื้อบุหรี่วันละเกือบ 131 ล้านบาทต่อปี

 

 

            สิงห์อมควันไทยเฉียด 11 ล้านคน ผลาญเงินซื้อบุหรี่วันละเกือบ 131 ล้านบาท ชี้ถ้าเอามาซื้อข้าว สามารถเลี้ยงคนได้ถึง 24 ล้านคนต่อวัน ศจย.-มหิดล-สสส.ร่วมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก “อดบุหรี่ 1 ซอง อิ่มท้องทั้งครอบครัว” วอนนักสูบหยุดจุดไฟเผาข้าว 12,400 ตันต่อวัน แถมโจ๋เป็นทาสบุหรี่เพิ่ม พบเล่ห์ชวนสูบบุหรี่ราคาถูกในผับ บาร์

 

            ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการบริโภคยาสูบ(ศจย.) กล่าวว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของประชากรชาวไทยล่าสุดในปี 2550 พบว่า คนไทยอายุ 11 ปีขึ้นไปที่สูบบุหรี่ทั้งการสูบบุหรี่เป็นประจำและสูบบุหรี่เป็นครั้งคราว มีตัวเลขถึง 10.9 ล้านคน โดยเฉลี่ยแล้วจะมีค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อบุหรี่วันละ 12 บาท เมื่อคำนวณทั้งประเทศรวมกันแล้ว เป็นจำนวนเงินสูงถึงเกือบ 131 ล้านบาทต่อวัน

 

            ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่น้ำมันแพง น้ำตาลราคาสูง ข้าวมีราคาเพิ่มเป็นประวัติการณ์ เงินจำนวน 131 ล้านบาท ที่นำมาซื้อบุหรี่นั้น จะสามารถซื้อข้าวสารได้เป็นจำนวนถึง 12,422 ตันต่อวัน เป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับใช้เลี้ยงคนได้ 24.4 ล้านคนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนคนมากกว่า 1 ใน 3 ของคนไทยทั้งประเทศ เพราะคนไทย 1 คน จะบริโภคข้าวสารต่อวัน ประมาณ 210 กรัม

 

            “เนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการบริโภคยาสูบ ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการรณรงค์ “เลิกบุหรี่ 1 ซอง อิ่มท้องทั้งครอบครัว” ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางด้านโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อให้ทุกคนที่สูบบุหรี่ตระหนักว่าบุหรี่ 1 ซอง ที่ราคาเฉลี่ย 45 บาท เงินจำนวนนี้ซื้อข้าวสารได้ครึ่งกิโลกรัม ซึ่งเฉลี่ยครอบครัวไทยที่มีประมาณ 3 คน จะมีข้าวกินได้ถึง 3 วัน จึงขอให้ผู้ที่สูบบุหรี่ทุกคนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หยุดการทำลายสุขภาพของตนเอง เลิกทำร้ายคนที่รักด้วยควันบุหรี่” ผศ.ลักขณากล่าว

 

            ผศ.ลักขณากล่าวอีกว่า เด็กและเยาวชนถือว่าเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อรณรงค์การลด ละ เลิก สูบบุหรี่ ทั่วโลกมีอัตราเด็กและเยาวชนสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่อัตราการสูบบุหรี่ในปี 2550 ที่มีภาพรวมลดลง แต่เพิ่มขึ้นเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี ที่เพิ่มจากปี 2549 คือร้อยละ 6.6 เป็นร้อยละ 7.25 ขณะที่กลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 19-24 ปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.66 เป็น ร้อยละ 21.27

 

            องค์การอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และเน้นห้ามการโฆษณาบุหรี่ทุกรูปแบบ ในประเทศไทยก็มีกฎหมายเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ยังพบว่ามีการโฆษณาแอบแฝงในลักษณะต่างๆ อาทิ การส่งเสริมการขายว่ามีบุหรี่ราคาถูกจำหน่ายในผับ บาร์ รวมทั้งการใช้เล่ห์กลเข้าไปสนับสนุนการทำกิจกรรมต่างๆ ของเด็กและเยาวชนอีกด้วย

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

update 30-05-51