อึ้ง คีย์บอร์ด สกปรกกว่าโถสุขภัณฑ์

ชี้อันตรายมากกว่าถึง 5 เท่า

 

อึ้ง คีย์บอร์ด สกปรกกว่าโถสุขภัณฑ์ 

พบคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียอันตรายมากกว่าที่นั่งโถสุขภัณฑ์ถึง 5 เท่า และผู้ใช้อาจเสี่ยงท้องเสียโดยไม่รู้ตัว

 

กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภควิช? เตือนว่า qwerty tummy ซึ่งตั้งชื่อตามตัว อักษรชุดแรกบนแป้นคีย์บอร์ด อาจระบาดในที่ทำงาน หลังการตรวจสอบอุปกรณ์ในออฟฟิศของตนเองในลอนดอนและพบผลลัพธ์ที่น่าตกใจ

 

คีย์บอร์ดตัวหนึ่งสกปรกขนาดที่นักจุลชีววิทยาสั่งให้ยกออกไปทำความสะอาดในบริเวณกักกัน เนื่องจากมีแบคทีเรียในระดับที่เกินกว่ามาตรฐานที่ยอมรับได้ถึง 150 เท่า และสกปรกกว่าโถชักโครก 5 เท่า

 

ดังนั้น คนที่กินแซนวิชหรือผลไม้ขณะนั่งกดแป้นคีย์บอร์ดนี้จึงมีโอกาสได้รับแบคทีเรียและท้องเสียได้

นักวิจัยนำตัวอย่างแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ เช่น อี.โคไล.โคลิฟอร์ม และเอนเทอโรแบคทีเรีย จากคีย์บอร์ด 33 ตัว และไปเปรียบเทียบกับแบคทีเรียและพบบนที่นั่งโถชักโครกและลูกบิดประตูห้องน้ำ

 

ผลปรากฏว่า คีย์บอร์ด 4 ตัว มีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ 2 ตัวมีแบคทีเรียจำนวนมาก อีกสองตัวมีแบคทีเรียโคลิฟอร์มและเอนเทอโรแบคทีเรียในระดับที่ต้องระมัดระวัง และทั้งหมดน้ำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ

 

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สิ่งที่ค้นพบจากสำนักงานของวิช? เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในออฟฟิศทั่วไปในอังกฤษ

 

ซาราห์ คิดเนอร์ บรรณาธิการด้านคอมพิวเตอร์ของวิช? กล่าวว่า ผลการตรวจสอบสะท้อนว่าคีย์บอร์ดเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียที่น่ากลัวที่อาจนำไปสู่โรคอาหารเป็นพิษ เช่น ท้องร่วง และสาเหตุสำคัญของเรื่องนี้มาจากการกินอาหารบนโต๊ะทำงาน รวมถึงการรักษาความสะอาดส่วน บุคคล เช่น การไม่ยอล้างมอหลังเข้าห้องน้ำ เป็นต้น

 

วิช? ยังพบว่าคน 1 ใน 10 ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ด และร้อยละ 20 ไม่เคยทำความสะอาดเมาส์ ขณะที่ร้อยละ 50 ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ดภายในเวลาหนึ่งเดือน

 

นอกจากนั้น รูปแบบการทำงานสมัยใหม่ที่พนักงานย้ายโต๊ะทำงานไปเรื่อย ๆ ยังหมายความว่าพนักงานไม่มีทางรู้เลยว่ามีใครใช้คีย์บอร์ดที่ตนใช้อยู่มาบ้าง

 

สุดท้าย วิช? แนะนำให้ผู้ใช้พีซีทั้งที่บ้านและที่ทำงานทำความสะอาดคีย์บอร์ดเป็นประจำเพื่อป้องกันการเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียโดยก่อนทำความสะอาดด้วยผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาด ๆ ผู้ใช้ควรถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ก่อน

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน

 

 

 

update 02-05-51

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ