อาหารกลางวันนักเรียนคุณภาพต่ำ เด็กไทยเสี่ยงเติบโตไม่สมวัย
พ่อแม่หลายคนคงอุ่นใจที่ลูกหลานของตัวเองไปโรงเรียน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายนัก ค่าเล่าเรียนรัฐบาลก็ออกให้ นมก็มีให้กินฟรีทุกวัน
ที่สำคัญ ค่าอาหารกลางวันก็ไม่ต้องเสีย แต่พ่อแม่จำนวนมากคงยังไม่ทราบว่าค่าอาหารกลางวันของนักเรียนที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณผ่านสำนักงานโครงการอาหารกลางวันนั้น โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละมื้อลูกหลานของตัวเองได้รับเพียงมื้อละ 13 บาทเท่านั้น
มื้อละ 13 บาทนี้มีที่มาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 มีมติเห็นชอบให้เด็กนักเรียนทุกคน ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณอาหารกลางวันเต็มทั้ง 100% และให้ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันจากวันละ 10 บาทต่อคน เป็น 13 บาทต่อคน โดยมีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553 เป็นต้นไป
จากมติ ครม.นี้ ดูเหมือนจะแสดงออกซึ่งความห่วงใยในภาวะโภชนาการของเด็กในวัยเรียน ให้ได้รับประทานอาหารกลางวันไม่ต้องอดๆ อยากๆ แต่ความเป็นจริง อาหารกลางวัน 13 บาทต่อมื้อต่อคน ดูจะขัดกับค่าครองชีพทุกวันนี้ เหลือเกิน
สง่า ดามาพงศ์ นักโภชนาการชื่อดัง ในฐานะผู้จัดการโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย โดยกรมอนามัย ร่วมกับ สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ความเห็นว่า ค่าอาหารกลางวันเด็กคนละ 13 บาทต่อวันนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริง น้อยเกินไป ถ้าอยากจะให้เด็กได้สารอาหารครบถ้วนสมวัย นักโภชนาการคำนวณออกมาแล้วว่าค่าอาหารมื้อกลางวันของเด็กควรจะเป็น 15-17 บาท
“ข้อมูลอีกอย่างที่น่าสนใจ คือ เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้รับงบประมาณอาหารกลางวันไปแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ อปท.บางแห่งยังใช้วิธีการประมูลแบบราชการ สมมติท้องถิ่นมีนักเรียนเยอะ เงินก้อนใหญ่หลายแสนบาทจึงใช้วิธีการประมูลจัดซื้อจัดจ้างเหมือนซื้อวัสดุก่อสร้าง ปรากฏว่า ถ้ารายไหนให้ราคาต่ำที่สุดรายนั้นก็จะได้ทำอาหารให้เด็กกิน” สง่าเล่า
เท่ากับว่าเด็กนักเรียนที่ควรจะได้รับประทานอาหารมื้อละ 13 บาท กลับต้องมีมูลค่าต่ำลงไปอีก นักเรียนในโรงเรียนบางแห่งอาจจะเหลือแค่ 10 บาท หรือน้อยกว่านั้น
จากการสำรวจข้อมูลของสำนักสำรวจสุขภาพประชาชนไทย (สสท.) เมื่อปี 2552 ได้รับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานครบ 3 มื้อของเด็กอายุ 6-14 ปี พบว่า 1 ใน 5 ของเด็กในช่วงอายุดังกล่าว กินอาหารไม่ครบ 3 มื้อ โดยมื้อเช้าเป็นมื้อที่มีการงดมากที่สุดคือร้อยละ 60 ข้อมูลนี้น่าตกใจอย่างยิ่ง เพราะถ้าเด็กที่อยู่ในกลุ่ม 60 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน พอถึงมื้ออาหารกลางวันที่มีมูลค่าต่ำ อาหารที่ได้รับแทบจะไม่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายก็จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กคนนั้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
ที่ผ่านมา หน่วยงานของภาครัฐโดยเฉพาะกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการได้มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการมาโดยตลอด แต่ก็ยังพบข้อจำกัดบางประการที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้เด็กไทยวัยเรียนมีโภชนาการสมวัย
นายสง่า ในบทบาทผู้จัดการโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทย มีโภชนาการสมวัย กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ได้เสริมสร้างสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีศักยภาพในการพัฒนาพฤติกรรมโภชนาการของเด็กในชุมชน ศูนย์เด็ก และโรงเรียนให้พึงประสงค์ใช้เวลา 3 ปีดำเนินงานในพื้นที่ อปท. จำนวน 242 แห่ง ครอบคลุม 9 จังหวัดคือเชียงใหม่ ลำปาง นนทบุรี สมุทรปราการ เพชรบุรี อุดรธานี ขอนแก่น สงขลา และภูเก็ต
โครงการฯ โภชนาการสมวัยได้ลงไปจุดประกายให้จังหวัดและท้องถิ่นตระหนักเห็นความจำเป็นที่จะต้องทำให้เด็กในชุมชนมีโภชนาการสมวัย โดยให้ท้องถิ่นชุมชน โรงเรียน สำรวจตนเองเพื่อค้นหาปัญหาพฤติกรรมโภชนาการที่ไม่พึงประสงค์ แล้วนำมาวางแผนแก้ไขปัญหา โดยการส่งเสริมให้พักไว้ในแผนชุมชนโดยมีโครงการของชุมชนรองรับ
ณ ปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร้อยละ 70 ของพื้นที่นำร่องได้บรรจุงานโภชนาการสมวัยที่ได้นำเงินขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ไปเพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนจาก 13 บาทเป็น 15 บาท และได้มีการควบคุมคุณภาพอาหารกลางวัน อาหารว่างและเครื่องดื่มในโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กให้ได้มาตรฐาน ที่สำคัญได้เกิดนวัตกรรมการเรียนการสอนโภชนาการในโรงเรียนโดยบูรณาการเข้าไว้ใน 8 กลุ่มสาระเรียนรู้ รวมทั้งเกิดมาตรการทางสังคมด้านโภชนาการอีกด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า