หากมนุษย์คิดเป็น…ความเสี่ยงจะน้อย
“ผู้เขียน” ขอนำภาพที่อยากพูดถึงมาลงไว้ให้ดูกันในหน้านี้ เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะพอเคยเห็นภาพนี้กันมาบ้างแล้วบนหน้าจอทีวี
เป็นภาพที่หากจะมองในด้านของความสนุกขบขัน ต้องขอบอกว่า บุคลากร ที่นำมาเข้าฉากนั้น หน้าตาแต่ละคน “ได้ใจ” จริงๆ เอาตั้งแต่พิธีกรหากมีการประกวด “ความบื้อ” หมอนี่คงคว้าถ้วยรางวัลมาครองแน่ๆ เพราะสีหน้าของแกบื้อจริงใจจริงๆ แบบว่าหน้าตาของแกเต็มไปด้วยความสงสัย เต็มไปด้วยความเป็นห่วง และเต็มไปด้วยความกังวล ส่วนอีกสองหน่อที่แกกำลังนั่งดวดเหล้าอยู่ ก็แสนจะ “ขี้เหล้าจริงๆ” พอพี่บื้อของเราถามว่าถ้าไม่กินเหล้าจะทำอะไรดี หน้าตาของแกเหว๋อเหมือนไม่เชื่อว่าจะมีคำถามแบบนี้ออกมาจากปากคน
นักสร้างสรรค์เก่งตรงที่ไม่ให้คนสองคนตอบ แต่แสดงออกทางสีหน้าและแววตา เพื่อให้สะท้อนออกมายังคนดู เป็นการกระตุ้นให้คนที่ได้ดู และมองเห็นกิริยาท่าทางของคนทั้งสอง เป็นผู้ตอบเองว่าจะทำอะไรดี ซึ่งนั่นคือประเด็นของงานโฆษณาชิ้นนี้ คือ เรียกร้องให้คน (ทั้งที่ชอบกินเหล้า และไม่กินเหล้า)ตอบ โดยส่งเป็นวีดีโอคลิปมาออกอากาศ
ผู้เขียนจะไม่บอกละว่าผลงานชิ้นนี้เป็นของใคร แต่เชื่อว่าคนที่ช่างสังเกตสักหน่อยคงจะได้เห็นภาพโลโก้บนตอนบนของภาพที่เป็นรูปเหมือนคนสามคนกำลังกระโดด (หรือใครจะมองเห็นเป็นภาพว่าวจุฬาก็ได้) คงจะรู้ว่าเป็นผลงานของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เจ้าเก่าที่ต่อต้านการดื่มเหล้ามานานแสนนานแล้ว นั่นเอง มาคราวนี้เป็นการเชื้อเชิญให้คนใช้สมองเพื่อเลี่ยงที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดีสำหรับวิถีชีวิตของมนุษย์
การดื่มเหล้าจัดเป็นอบายมุขอย่างหนึ่งที่ หากใครหลีกเลี่ยงได้จะทำให้ราศรีของชีวิตดีขึ้น สุขภาพทั้งกายและใจสมบูรณ์ดีขึ้นและโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งโรคปัจจุบันทันด่วน แบบเมาแล้วตกน้ำตาย หรือโรคแบบเรื้อรัง แบบโรคตับ โรคไต โรคกระเพาะก็จะไม่เข้ามายุ่มย่ามกับชีวิตของเรา
ตามหลักของจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็น ซิกมันด์ ฟรอยด์ หรือดิวอี้ ล้วนแต่บอกเอาไว้ว่าสมองของคนเรานั้นหากได้นำมาคิด มันสมองก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โฆษณาชิ้นนี้ เรียกร้องให้คนดูเกิดแรงกระตุ้นที่อยากจะคิดเพื่อตอบคำถามชิ้นงานโฆษณาว่า หากเราไม่ดื่มเหล้าแล้ว เราจะทำอะไรดีในตอนเย็น…
ผลของคำตอบมันจะออกมา พร้อมๆ กับพฤติกรรมในทันทีที่เราคิดได้ เป็นต้นว่าคนที่ตอบว่า ตอนเย็นเราจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด…นั่นแสดงว่า ตรงที่คุณนั่งอยู่จะต้องไม่มีเหล้าวางเอาไว้ให้ดื่มแน่ๆ หรือ ถ้าเราตอบว่าตอนเย็นเราจะไปตีเทนนิส นั่นก็แสดงว่าเราจะได้ออกกำลังกาย ทำให้เหงื่อออก ทำให้เกิดความสนุก โดยไม่ต้องมานั่งดื่มอยู่กับเพื่อนๆ ให้เสียเงิน เป็นการเรียกร้องแบบทางอ้อม ที่มิใช่บอกกันตรงๆ แต่ให้คนคิดกันได้เอง ด้วยตัวเองแล้วก็นำเอาไปใช้เอง
ใครคิดได้ส่งเป็นคลิปวีดีโอ ไปที่ ตู้ ปณ. 55 สามเสนใน 10400 หรือ SMS 4554950 โดยเสียค่าส่งครั้งละ 3 บาท สนุกด้วยได้ใช้ความคิดด้วย ที่สำคัญได้แสดงออกถึงกึ๋นที่มีอยู่ในหัวสมองของเราสู่มวลชน ดีไม่ดีอาจจะมีแมวมองมาว่าจ้างให้เป็นครีเอทีฟไปทำงานโฆษณาหรือสร้างหนังสร้างละครก็ได้นะ ไม่แน่เหมือนกัน
ก็อย่างที่ให้หัวข้อไว้นั่นแหละว่า ถ้ามนุษย์มีความคิด ความเสี่ยงในชีวิตจะน้อยลง เพราะคนที่คิด ย่อมคิด แต่เรื่องที่เป็นผลดีเข้าตัวเอง ไม่มีใครที่คิดอยากจะทำร้ายตัวเองแน่ๆ หากในสังคมของคนเรา มีการส่งเสริมให้คนในสังคมได้แสดงความคิดกันมากๆ และแสดงความคิดกันบ่อยๆ โดยไม่ปล่อยเวลาให้หมดไปอย่างไร้ประโยชน์ สังคมก็จะมีการพัฒนามากขึ้น
ทุกวันนี้ที่สังคมเต็มไปด้วย การสร้างปัญญาของคนในสังคม เหตุผลก็เนื่องมาจากคนในสังคม ไม่ค่อยมีการใช้ความคิดที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ปล่อยให้ความชั่วร้ายเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิต มีอิทธิพลต่อ จิตใจของเรา แล้วก็กระทำอะไรที่ผิดพลาดลงไปแบบ “ขาดความยั้งคิด” สุดท้ายผลเสียก็ตกอยู่กับตัวของคนที่ไร้ความคิดเอง ยิ่งสังคมของเราเต็มไปด้วย สิ่งมอมเมาต่างๆ เรายิ่งต้องใช้ความคิดให้หนัก และต้องอยู่ด้วยการใช้ความคิดที่เป็นของตัวเอง ชีวิตจึงจะไปได้สวย
ก่อนจบขอชมเชย แนวคิดของคนที่ทำงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้อีกสักครั้งว่า เป็นงานโฆษณาที่เต็มไปด้วยคุณค่า และมีกุศโลบายที่ล้ำลึกอย่างมากทีเดียว ยกย่อง…ยกย่อง
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Update 22-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก