พบคนไทยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และเสียชีวิตแล้ว

ไข้หวัด 2009 ระบาดกว่า 207 ประเทศ!!! 6 องค์กรดัง จึงร่วมมือกันสร้างระบบรายงาน “โรค” เพื่อให้รู้ผลสถานการณ์นาทีต่อนาที
วันที่ 27 ม.ค. ที่โรงแรมสยามซิตี้ สำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ คณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกันควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โครงการทำดีทุกวันจากดีแทค องค์กร InSTEDD มูลนิธิกูเกิล ประเทศสหรัฐอเมริกา และบริษัทโอเพ่นดรีม จำกัด จากประเทศไทย ร่วมแถลงความร่วมมือในการจัดทำโครงการ “ระบบสื่อสาร SMS เพื่อข้อมูลข่าวสารสุขภาพ และการเฝ้าระวังโรคระบาด”
จากการค้นหาในกูเกิลพบว่า มีการค้นหาคำว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 3,960,000 ผลการค้นหา รองลงมาคือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2,010,000 ผลการค้นหา และไข้หวัด 2009 จำนวน 1,240,000 ผลการค้นหา

นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานอนุกรรมการสนับสนุนการป้องกัน ควบคุมและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (H1N1 2009) กล่าวว่า การระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก คาดว่าจะระบาดต่อเนื่องอย่างน้อย 1-3 ปี ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลกมีการระบาดของโรคแล้วใน 207 ประเทศ มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 650,000 ราย ผู้เสียชีวิตมากกว่า 8,768 ราย ส่วนไทยมีอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรวมถึงมีผู้เสียชีวิตในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอุณหภูมิบางพื้นที่ลดลง ประกอบกับการรวมตัวของคนจำนวนมากในช่วงเทศกาล ขณะที่สถานการณ์การระบาดในต่างประเทศมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดจึงทำให้ทั้ง 6 หน่วยงานร่วมกันสร้างโปรแกรมจีโอแชท (GEO Chat) เพื่อให้การประมวลผลภาวะเจ็บป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็ว และแม่นยำ

ด้าน นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009อยู่ ซึ่งสาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศต้องมีการวางแผนและมีมาตรการ เพื่อควบคุมโรค ดังนั้นจึงเกิดโปรแกรมจีโอแชท (GEO Chat) ขึ้นมาเพื่อให้แต่ละจังหวัดส่งข้อความสั้น หรือ SMS ไปยังส่วนกลางคือกรมควบคุมโรค ซึงมีโปรแกรมประมวลผลและแยกข้อมูลออกมาเป็นรายพื้นที่ เพื่อรายงานจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และในอนาคตอาจปรับระบบให้รองรับการรายงานสถานการณ์โรคอื่น ๆ ด้วย

มร.มาร์ค สโมลินสกี้ ผู้อำนวยการโครงการคาดการณ์และเฝ้าระวังโรคระบาด มูลนิธิกูเกิล กล่าวว่า มูลนิธิกูเกิลทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของนักพัฒนาไอซีทีภูมิภาค เพื่อให้ทำงานร่วมกับสาธารณสุขในพื้นที่ได้อย่างสะดวก โดยการเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแจ้งเตือนประชาชน ลดอัตราการตายลง เพื่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ด้านการเฝ้าระวังทำให้หน่วยงานต่าง ๆ เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งส่งผลดีให้ประชาชนตื่นตัวและป้องกันตัวเองได้

ซึ่ง นายพีระพงษ์ กลิ่นละออ ผู้อำนวยการสำนักงานสำนึกรักบ้านเกิด (ดีแทค) กล่าวว่า ทั้ง 6 องค์กรเล็งเห็นร่วมกันในการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพราะจากสถิติผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นครอบคลุมในทุกกลุ่ม ช่วงอายุ สามารถเข้าถึงชุมชนและใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้จึงทำให้การส่งข้อมูลโรคระบาดทำได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที ไม่เพียงแต่จะเชื่อมโยงกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
เรื่องโดย: วชิราภรณ์ ฤทธิ์สมบูรณ์ Team content www.thaihealth.or.th
Update: 28-01-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: วชิราภรณ์ ฤทธิ์สมบูรณ์