หมอเตือน ‘ยาเส้น’ อันตรายกว่าบุหรี่ 20 เท่า
ชี้!! เสี่ยงสารเคมีตกค้างสะสมก่อโรค
โรคปอดลมโป่ง มะเร็ง เป็นโรคอันดับต้นของ รพ. ส่วนมะเร็งจากบุหรี่ปีที่แล้วพบมากกว่า 50 ราย ส่วนวัยรุ่นเมืองแพร่ ไม่สนราคาบุหรี่ขึ้น หันมาใช้ยาเส้นด้วยการพัฒนารูปแบบการมวน…
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 พ.ค. 2552 ที่โรงพยาบาลแพร่ นายแพทย์สมคิด เอื้ออภิสิทธิ์วงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ทางโรงพยาบาลได้จัดกิจกรรมคลินิกลดสูบบุหรี่ และได้ชี้ให้เห็นถึงผลการสูบบุหรี่ ที่โรงพยาบาลแพร่มีคนไข้ สาเหตุจากการสูบบุหรี่ เริ่มจากโรคหืด หอบ ถุงลมโป่งพอง จัดเป็นระดับต้น ในปี่ที่ผ่านมามีคนเข้ารักษามากกว่า 200 ราย ส่วนขั้นมะเร็งมีมากกว่า 50 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดกว่าโรคอื่น
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพร่ กล่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมสูบบุหรี่ว่า ไม่สนใจเรื่องราคาบุหรี่สูงขึ้น แต่กลุ่มเยาวชนเหล่านี้หันไปใช้ยาเส้นแทนแต่มีการปรับเปลี่ยนการมวนให้สวยงาม ซึ่งอันตรายมาก อยากให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลใกล้ชิด เพราะว่าการกลับมาใช้ยาเส้นแทนบุหรี่จริงนั้นเท่ากับว่ารับเอาโรคที่รุนแรง เข้าไป 20 เท่า เนื่องจากยาเส้นที่มียาฆ่าแมลง กระดาษที่ใช้มวนบุหรี่ล้วนเป็นอันตรายทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่ควรจะสูบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 16 – 20 ปี กลุ่มหนึ่งที่หันไปใช้การมวนยาเส้น กล่าวว่า บางคนสูบบุหรี่มาแล้วตั้งแต่เด็ก บางคนเริ่มสูบเพราะเลียนแบบเพื่อนๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะชอบเที่ยวเตร่เป็นหลัก และหลังจากราคาบุหรี่สูงขึ้น บางคนมีเงินก็ยังซื้อสูบ แต่หลายกลุ่มขณะนี้หันมาเอาใบยาสูบที่อบแห้งแล้วมาบด จากนั้นก็เอาบุหรี่จริงมาปนแล้วใช้กระดาษมวนกันใหม่ ให้เท่าของจริง และนำไปใส่ซองบุหรี่เหมือนเดิมทุกอย่างก็คล้ายของจริง โดยขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นเริ่มหันมาสูบบุหรี่ยาเส้นกันจำนวนมาก
ด้านนายเขียว (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี กล่าวว่า ตนสูบบุหรี่มาตั้งแต่ อายุ 15 ปี จนถึงอายุ 40 ปี จึงหยุด เนื่องจากป่วยเป็นโรคปอด และขณะนี้เหลือปอดข้างเดียว เนื่องจากเมื่อก่อนสูบแต่ยาเส้น ไม่เคยสูบบุหรี่ของจริง และบางครั้งได้มีการนำใบตองแห้งมามวนบ้าง กระดาษบ้าง เพราะหาง่าย จนตัวเองป่วยออดๆ แอดๆ มาตลอด สุดท้ายต้องตัดไตทิ้ง
อยากเตือนว่าใบยาสูบทั่วไปนั้นแน่นอนว่าไม่สะอาดบริสุทธิ์ เพราะว่าการปลูกใบยาสูบส่วนใหญ่ก็ใช้ปุ๋ยใช้สารเคมีพ่นใบถึงจะเขียวและสวยงาม ถึงแม้ว่าจะนำมาอบให้แห้งก็ตามสารเคมีเหล่านั้นมันก็ยังตกค้างอยู่ เมื่อนำมาสูบก็เท่ากับรับเอาสารเคมีเหล่านั้นเข้าไปทีละน้อย ดังนั้นจึงอยากเตือนใครก็ตามที่สูบบุหรี่ก็ควรงดหรือให้ลดลงทีละน้อยก็ได้ เพราะผลของมันรุนแรงกว่าที่ตนได้รับ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภาพประกอบ: อินเทอร์เน็ต
update 01-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก