หญิงเครียด – งานหนักเสี่ยงลูกป่วยโรคจอประสาทตา
แพทย์เตือนสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดที่อาจนำให้ลูกป่วยเป็นโรคจอประสาทตา ได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากหรือน้อยเกินไป ติดยาเสพติดสูบบุหรี่ มีภาวะเครียด ทำงานหนัก และผู้ที่มีประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดที่ไม่ดี เช่น มีการแท้ง คลอดก่อนกำหนดในครั้งก่อน ภาวะติดเชื้อทางระบบปัสสาวะเฉียบพลัน มีเลือดออกในขณะตั้งครรภ์ความดันโลหิตสูง มีการติดเชื้อในช่องคลอดและปากมดลูก
นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคจอประสาทตาในเด็กคลอดก่อนกำหนดเป็นความผิดปกติของจอประสาทตาในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากจอประสาทตาของเด็กยังไม่เจริญเต็มที่ เมื่อคลอดออกมา ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบเส้นเลือดของจอประสาทตา เกิดเป็นเส้นเลือดงอกใหม่และมีเยื่อพังผืดมาดึงรั้ง ทำให้จอประสาทตาหลุดลอก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคคือการได้รับออกซิเจนหลังคลอด ซึ่งในเด็กคลอดก่อนกำหนดมักจะมีความผิดปกติของอวัยวะอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ระบบหายใจเลือดออกในสมอง โรคลำไส้อักเสบ เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการให้ออกซิเจนในตู้อบ เพื่อรักษาชีวิตให้รอด แต่จะเป็นปัจจัยเสริมทำให้โรคจอประสาทตาในเด็กคลอดก่อนกำหนดรุนแรงขึ้น
สำหรับวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคตอนตรวจพบ ซึ่งแบ่งความรุนแรงเป็น 5 ระยะ คือระยะ 1-2 สามารถหายได้โดยไม่ต้องให้การรักษา ระยะ 3-4 ใช้แสงเลเซอร์รักษาเพื่อป้องกันการหลุดลอกของจอประสาทตา แต่อาจมีการเกิดภาวะสายตาสั้น ตาเข หรือจอประสาทตาลอกในภายหลังได้ ระยะ 4-5 ไม่สามารถใช้แสงเลเซอร์รักษาได้ เพราะมีการหลุดลอกของจอประสาทตาแล้ว บางรายอาจทำการรักษาโดยการผ่าตัดจอประสาทตา แต่ไม่ได้ผลไม่สามารถกลับมามองเห็นได้
ปัจจุบันเทคโนโลยีการรักษาด้านจักษุวิทยามีความก้าวหน้ามาก ขณะนี้ในต่างประเทศ ได้ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัยทดลองด้วยการฝังชิปที่สมองเพื่อสั่งการให้สามารถเห็นภาพได้ และถ้าวิธีดังกล่าวสำเร็จ กรมการแพทย์จะนำเทคโนโลยีนั้นมาทำการรักษาให้แก่ผู้ป่วยโรคจอประสาทตาในอนาคต ดังนั้นจึงฝากเตือนสตรีตั้งครรภ์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากหรือน้อยเกินไป ติดยาเสพติด สูบบุหรี่ มีภาวะเครียด ทำงานหนักและผู้ที่มีประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดที่ไม่ดี เช่น มีการแท้ง คลอดก่อนกำหนดในครั้งก่อน ภาวะติดเชื้อทางระบบปัสสาวะเฉียบพลัน มีเลือดออกในขณะตั้งครรภ์ความดันโลหิตสูง มีการติดเชื้อในช่องคลอดและปากมดลูก จึงควรป้องกันการคลอดก่อนกำหนด โดยการฝากครรภ์กับแพทย์ที่โรงพยาบาลเมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ