ส.อ.ท.– สสส. ดัน 5 เครื่องมือพัฒนาองค์กรความสุข เตรียมพร้อมสู่เศรษฐกิจอาเซียนปี 58
ส.อ.ท. – สสส. ดันกลไก 5 เครื่องมือพัฒนาองค์กรความสุข หวังเน้นพัฒนา “คน” ทุกระดับ เตรียมพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายต่างๆ จัดงาน “มหกรรม Happy Work Place Forum : 5 Apps to Happy workplace 3.0” ที่ห้องบอลรูม ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดงานสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การสร้างคนในองค์กรแห่งความสุขเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” กล่าวว่า ผู้ประกอบการทั้งหลายจำเป็นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมและการปรับตัวเพื่อรองรับการเปิดเสรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาบุคลากรทางด้านองค์ความรู้ ความสามารถ การพัฒนาศักยภาพของแรงงาน การใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสาร การเตรียมรับมือกับการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการวิจัยและพัฒนา ซึ่งมองว่าถ้าเราไม่มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ เราจะไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศ และอาจจะเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนาอยู่ก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงจำเป็นต้องมีการปรับตัว พร้อมทั้งทำความเข้าใจ วิเคราะห์ และวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมืออย่างเสรีทั้งเชิงรุกและเชิงรับ โดยควรมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อ “คน” ในลักษณะที่เป็น Happy Capital มองคนเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ การบริหารคนในรูปแบบความร่วมมือในการทำงานร่วมกันในฐานะเพื่อนร่วมงาน มุ่งเน้นการลงทุนไปที่การเพิ่มพูนสมรรถนะและทักษะในการทำงานของบุคลากร
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งองค์กรธุรกิจและองค์กรภาครัฐต้องเตรียมพร้อมเพื่อความอยู่รอด การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ การกำหนดยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ในการบริหารงาน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD) ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาองค์กรให้มีความเข้มแข็ง เพื่อรับมือและแข่งขันกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคโลกาภิวัตน์ เพราะ คน คือ ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กรที่นำพาองค์กรสู่ความสำเร็จ ซึ่งแนวคิดการบริหารจัดการองค์กรยุคใหม่นอกจากการให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและการบริหารความแตกต่างของบุคลากรภายในองค์กรแล้ว ยังมุ่งส่งเสริมและจัดการให้บุคลากร “ทำงานอย่างมีความสุข”
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า สสส. ได้ร่วมกับคณาจารย์จากหลากหลายมหาวิทยาลัย และองค์กรภาคธุรกิจ พัฒนาโครงการ Happy Workplace ดำเนินการมากว่า 4 ปี โดยยุคที่ 1.0 เป็นยุคเริ่มต้นศึกษาองค์ประกอบของความสุขในการทำงาน ยุคที่ 2.0 มีการรวมตัวเพื่อสร้างทีมงานพัฒนาเครื่องมือสร้างความสุขทั้ง 5 เครื่องมือ และปัจจุบัน คือ ยุคที่ 3.0 เป็นยุคของการก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับชุดเครื่องมือสร้างความสุขทั้ง 5 เครื่องมือ ประกอบด้วย 1.Happy Model หรือ ต้นแบบจำลององค์กรสุขภาวะ 2.Happy Workplace Index หรือ เครื่องมือวัดความสุขภาวะระดับองค์กร 3.Happinometer หรือ เครื่องมือวัดสุขภาวะระดับบุคคล 4.Happy Workplace ROI หรือ เครื่องมือวัดผลตอบแทนทางธุรกิจ และ 5.Happy 8 Menu หรือ กล่องแห่งความสุข 8 ประการ ซึ่งเชื่อมั่นว่า ทั้ง 5 เครื่องมือ จะมีประโยชน์ต่อทุกองค์กร ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการเตรียมพร้อมคน รองรับการก้าวสู่การเป็นประชาคมเซียนเศรษฐกิจในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า“สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมของภาคอุตสาหกรรม ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจภาคเอกชนให้เกิดกลไกการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคน ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะส่งผลต่อความสำเร็จขององค์การ จึงมีแนวคิดที่จะทำให้คนทำงานอย่างมีความสุขและมีสุขภาวะที่ดีในการทำงาน เพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกันของพนักงานและองค์กร พร้อมต่อสู้กับวิกฤติทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การจัดงานมหกรรม “Happy Workplace Forum ภายใต้หัวข้อ 5 Apps To Happy Workplace 3.0” หรือ “ตลาดนัดเเห่งองค์ความรู้ด้านการสร้างองค์กรเเห่งความสุข” ซึ่งร่วมกับ สำนักงานกองทุนกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และภาคีความร่วมมือด้านการสร้างองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) ในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกครั้งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของสภาอุตสาหกรรมฯ และภาคีเครือข่าย ที่จะสนับสนุนให้ผู้บริหาร นักบริหารทรัพยากรมนุษย์ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป ได้รับองค์ความรู้ในการบริหารองค์กรในรูปแบบใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการพัฒนามนุษย์ในองค์กรการทำงานเเบบบูรณาการ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมอันจะนำไปสู่การเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศไทยในอนาคต ผ่านการเสวนาหัวข้อ “การสร้างองค์กรเเห่งความสุข (Happy Workplace) ในยุค 3.0” เพื่อให้องค์กรอื่นๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสถานประกอบการของตนเองได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน (Sustainable) ส่งผลให้ผู้บริหารเล็งเห็นความสำคัญว่า “คนเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของบริษัท (the man is asset) ” เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จินตนาการของพนักงานที่จะสรรสร้างผลงานที่มีคุณค่าต่อองค์กรส่งผลให้สร้างมูลค่าให้กับบริษัท โดยบริษัทเป็นผู้สร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดี และงานสัมมนาหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับ 5 Apps. To Happy Workplace หรือ “ชุดเครื่องมือสุขภาวะองค์กร 5 เครื่องมือ”
อย่างไรก็ตาม การจัดงานในครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 1,600 คน ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เครือข่ายด้านการสร้างองค์กรแห่งความสุขของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ อีกทั้งผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์ทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ ตลอดจนภาคีความร่วมมือด้านการสร้างองค์กรแห่งความสุขอื่นๆ โดยผลที่ได้รับจากการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ผู้จัดงานคาดว่าจะสามารถก่อให้เกิดการพัฒนาบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และส่งผลให้เกิดทิศทางในการกำหนดนโยบายและการดำเนินงานด้าน Happy Workplace ที่ถูกต้อง โดยมีข้อมูลและกรอบการดำเนินการที่ชัดเจน อันจะนำไปสู่การร่วมกันสร้างความสุขในที่ทำงานโดยเฉพาะการยกระดับสู่การเป็นผู้นำในการสร้างองค์กรแห่งความสุขในระดับภูมิภาคได้ต่อไป
ที่มา : สำนักข่าว สสส.
